นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมด่วน โดยมีวาระสำคัญ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานว่า รัฐสภาอิหร่าน เห็นชอบมาตรการปิดช่องแคบฮอร์มุช
โดยขั้นตอนจากนี้จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งจะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย จากกรณีที่กองกำลังสหรัฐฯ โจมตีฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งช่องแคบฮอร์มุชถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่งของโลก เชื่อมระหว่างอ่าวอาหรับกับทะเลอาหรับ เป็นเส้นทางผ่านของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติราว 20% ของความต้องการทั่วโลก หากเกิดการปิดช่องแคบ หรือขัดขวางการเดินเรือขึ้นจริง อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น
สำหรับในที่ประชุมจะมีการหารือ โดยประเมินจากสถานการณ์ แม้ว่าขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจน ถึงท่าทีของอิหร่าน แต่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน
รวมถึงกำหนดกรอบมาตรการหลังจากนี้ ในเรื่องพลังงานสำรอง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ส่วนตัวมองว่า การจะปิดช่องแคบดังกล่าว เป็นไปได้ยาก เพราะจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตามขณะนี้ ประเทศไทยมีน้ำมันสำรองไปถึง 60 วัน ซึ่งหากเกิดมีการปิดช่องแคบฮอร์มุช ขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องมีการกำหนดมาตรการออกมา เช่นเรื่องของการประหยัดพลังงาน หรือหาพลังงานทดแทน เป็นต้น โดยภายหลังการประชุม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง