ไฟร์ไบรท์ดันนวัตกรรมนิเวศแบตเตอรี่สลับ ยกระดับโลจิสติกส์ไทย

นายแครี่ เซียง (Carrie Xiong) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไฟร์ไบรท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ภาคขนส่ง และโลจิสติกส์ในประเทศไทย

โดยการพัฒนาและนำเสนอระบบนิเวศแบตเตอรี่สลับ โดยเป็นโซลูชั่นการสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรที่ผสานรวมยานยนต์อัจฉริยะ แบตเตอรี่แบบแยกส่วน สถานีสลับแบตเตอรี่อัตโนมัติ และแพลตฟอร์มคลาวด์เฉพาะทาง ซึ่ระบบดังกล่าวจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

ทั้งนี้ ระบบสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายในเวลาเพียง 3 นาที ลดเวลาการจอดรถได้ถึง 70% และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของยานพาหนะในระบบขนส่งและคมนาคม

ส่วนสถานีแบบ All-in-One ของบริษัทจะผสานการสลับแบตเตอรี่ การตรวจสอบคุณภาพอัตโนมัติ และระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะเข้าด้วยกัน  สามารถให้บริการยานพาหนะได้มากกว่า 300 คันต่อวัน และปรับความจุของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับลักษณะของยานยนต์แต่ละประเภท

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี Split Pack Swap เทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ร่วมกันได้ระหว่างรถหลากหลายประเภท ตั้งแต่รถ SUV  รถกระบะ ไปจนรถเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก นวัตกรรมนี้ ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานให้แก่ผู้ประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อนด้วยระบบจัดการแบตเตอรี่ที่เป็นมาตรฐานและยั่งยืน

ขณะที่บริการด้านพลังงานและแบตเตอรี่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาหลักของผู้ใช้รถ EV โดยจุดเด่นของบริการประกอบด้วย 

• ลดระยะเวลาการชาร์จ: แทนที่จะต้องชาร์จนาน 2–3 ชั่วโมง การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใช้เวลาเพียง 3–5 นาที
• ลดโอกาสการเสื่อมของแบตเตอรี่: เหมาะอย่างยิ่งกับระบบขนส่งที่ใช้งานหนัก เช่น วิ่งเกิน 200 กิโลเมตรต่อวัน เพราะแบตเตอรี่ EASY EV ของ FBT มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปอย่างมีนัยยะสำคัญ
• ระบบการจัดการแบบ WIN-WIN: โมเดลธุรกิจสร้างขึ้นให้มีความยืดหยุ่นและสร้างประโยชน์ร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย

สำหรับประเทศไทยบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้า B2B  โดยเฉพาะผู้ให้บริการระบบขนส่ง ผู้ประกอบการแท็กซี่ ธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ 

“ในปีแรกบริษัทตั้งเป้าเปิดสถานีสลับแบตเตอรี่มากกว่า 20 แห่งภายในปี 2568 และจะเพิ่มอีกกว่า 100 แห่งในปี 2569 โดยในช่วงแรกบริษัทฯ  จะขยายบริการด้านการจัดการพลังงานในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะขยายไปสู่ทั่วประเทศ”