นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงแนวโน้มสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก หลังเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านล่าสุด ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวขึ้นทันทีประมาณ 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
และลดลง 3 ดอลลาร์หรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อสถานการณ์ความรุนแรงลดลง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบกับราคาขายปลีกในประเทศไทย
เพียงแต่สถานการณ์เวลานี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน เพราะเพิ่งจะเริ่มขึ้นไม่นาน
“สถานการณ์ล่าสุดคือมีการโจมตีกันเมื่อวันศุกร์ (13 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมาแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็มีการโจมตีตอบโต้กันไปมา เพราะฉะนั้นจะยืดเยื้อหรือไม่คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกประมาณ 1-2 วัน”
อีกทั้งยังต้องรอดูสถานการณ์ช่วง 12.00 น. หรือ 13.00 น.ของวันนี้ก่อนว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งน่าจะทำให้ได้เห็นแนวโน้มของราคาที่ชัดเจน จะทำให้สามารถตัดสินใจได้ว่าราคาน้ำมันในประเทศจะเป็นอย่างไร
โดยจะมีการนำราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงเวลาดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อกำหนดทิศทางของราคาน้ำมันขายปลีกในไทยต่อไป
อย่างไรก็ดี หากถามถึงมาตรการรองรับสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ต้องเรียนว่า สกนช. มีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่ายังมีสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงพอในการดูแลราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไม่ให้กระทบประชาชน