'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2 ชงครม.สัปดาห์หน้า รับเงิน 2,000 จำนวน 10 ล้านสิทธิ์

09 ธ.ค. 2568 | 07:16 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2568 | 10:39 น.

โฆษกรัฐบาล ชี้คลังชงครม.สัปดาห์หน้า อนุมัติ 'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2 คาดรับเงิน 2 พันบาท จำกัด 10 ล้านสิทธิ์ เปิดลงทะเบียนช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ เริ่มใช้จ่ายม.ค.69

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า อนุมัติโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะให้จำนวน 10 ล้านสิทธิ์ วงเงินคนละ 2,000 บาท ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนในช่วงปลายเดือนธ.ค.68 นี้ และให้มีการใช้จ่ายในม.ค.69

“คนละครึ่งพลัส เฟส 2 คาดว่าจะเปิดลงทะเบียนช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ หลังจากครม.อนุมัติ ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ล้านสิทธิ์แรก สำหรับกลุ่มที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ และอาจเน้นพื้นที่อุทกภัย และพื้นที่ชายแดน ขณะที่อีก 5 ล้านสิทธิ์ที่เหลือจะเปิดกว้างให้ประชาชนที่เคยเข้าร่วมโครงการแล้ว  อย่างไรก็ตาม เรื่องยังไม่ตกผลึก ต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง”

สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นั้น คาดว่าจะใช้งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งยืนยันว่ายังมีกรอบวงเงินคงเหลือ โดยตอนนี้งบดังกล่าว มีวงเงินอยู่กว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยได้หักงบประมาณไปใช้ในการเยียวยาน้ำท่วม 2 รอบแล้ว 

นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (9 ธ.ค.68) ได้เห็นชอบหลักการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ คาดจะเริ่มในเดือนม.ค.69 

อย่างไรก็ตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ห่วงใยในประเด็นหลักเกณฑ์การเปิดลงทะเบียน โดยเฉพาะในเรื่องรายได้ และทรัพย์สิน จึงได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ทบทวนเกณฑ์ต่างๆ ให้ครบถ้วนทุกมิติ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน

 

'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2 ชงครม.สัปดาห์หน้า รับเงิน 2,000  จำนวน 10 ล้านสิทธิ์

“นายกฯ ห่วงใยเรื่องหลักเกณฑ์การเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ เนื่องจากมีบางคน รายได้เข้าเกณฑ์ ไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ภายหลังตรวจพบว่ามีทรัพย์สินมีมูลค่ามาก จึงมีข้อแคลงใจประชาชน“

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 23.00 น. พบว่ามีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วจำนวน 994,903 ราย ทั่วประเทศมี ประชาชนที่ใช้สิทธิครบเต็มจำนวน 3,810,867 ราย ขณะที่ยอดการใช้จ่ายสะสมภายใต้โครงการอยู่ที่ 70,756.3 ล้านบาท แบ่งเป็น

ร้านค้าปกติ ยอดใช้จ่ายรวม 68,376.9 ล้านบาท

  • เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย 33,666.3 ล้านบาท
  • เงินที่ประชาชนจ่ายเอง 34,710.6 ล้านบาท

ร้านค้าผ่าน Food Delivery Platform ยอดใช้จ่ายรวม 2,379.4 ล้านบาท

  • เงินที่ภาครัฐร่วมจ่าย 1,162.5 ล้านบาท
  • เงินที่ประชาชนจ่ายเอง 1,216.9 ล้านบาท