น้ำท่วมหาดใหญ่ล่าสุด สสว. ห่วงยืดเยื้อฉุด SMEs เสียหายกว่า 1.5 หมื่นล้าน
สสว. ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ล่าสุด ห่วงยืดเยื้อ 1 เดือนฉุด SMEs เสียหายกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ระบุเตรียมเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนประครองวิกฤต
KEY
POINTS
- สสว. แสดงความกังวลว่าหากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ยืดเยื้อเป็นเวลา 1 เดือน อาจสร้างความเสียหายแก่ผู้ประกอบการ SMEs สูงถึง 10,000-15,000 ล้านบาท
- มีผู้ประกอบการ SMEs ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัดภาคใต้แล้วกว่า 200,000 ราย โดยกระจุกตัวในพื้นที่สงขลา-หาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจร้านค้าและกิจการที่มีสต็อกสินค้าจำนวนมาก
- สสว. เตรียมเสนอมาตรการฟื้นฟูเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ เช่น การเพิ่มเพดานเงินช่วยเหลือ, การให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และมาตรการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูธุรกิจ
นายวิทวัส ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยสถานการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า กำลังก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับสูงมาก โดยเฉพาะจังหวัด สงขลา-หาดใหญ่ จุดกระจุกตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) จำนวนหลายแสนราย
ทั้งนี้ ความเสียหายเฉพาะในกลุ่ม SMEs ที่เกิดขึ้นในหาดใหญ่เพียงพื้นที่เดียวในแต่ละวันอยู่ที่ราว 1,500 ล้านบาท และหากสถานการณ์ยืดเยื้อ 1 เดือน ตัวเลขรวมอาจทะยานแตะ 10,000-15,000 ล้านบาท หากเป็นเช่นนั้น SMEs จะเกิดภาวะต้นทุนหาย รายได้ไม่มี กระทบสองต่อ ธุรกิจแทบยืนไม่อยู่
อย่างไรก็ดี SMEs ที่ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัด รวมเฉพาะสงขลา คาดว่ามีกว่า 200,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทตึกแถว ร้านค้า เทรดเดอร์ รวมถึงกิจการที่มีสต๊อกจำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบทั้งต่อสถานประกอบการ อุปกรณ์ และสินค้าคงคลัง
นายวิทวัส กล่าวอีกว่า สสว. เร่งดันมาตรการฟื้นฟูด่วน เพื่อสกัดความเสียหายไม่ให้ขยายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับภูมิภาค โดยเตรียมเสนอชุดมาตรการเร่งด่วน ได้แก่
- มาตรการ BDS แบบยกพลัง เพิ่มเพดานการช่วยเหลือจาก 200,000 บาท เป็น 500,000 บาท เพื่อช่วยซ่อมแซมสถานประกอบการ และกู้ฟื้นต้นทุนพื้นฐาน
- สิทธิพิเศษด้านจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยให้ SMEs ใน 7 จังหวัด โดยเฉพาะหาดใหญ่/สงขลา เข้าถึงงานภาครัฐก่อน เพื่อให้มีรายได้ไหลกลับสู่ระบบทันที
- มาตรการสินเชื่อฟื้นธุรกิจ เสริมสภาพคล่องเร่งด่วน ซื้อสต๊อกใหม่-ซ่อมอุปกรณ์ โดยเป้าหมายคือให้ธุรกิจกลับมาลุกขึ้นทำงานได้เร็วที่สุด
"ความช่วยเหลือจำเป็นต้องลงพื้นที่อย่างเร็วที่สุด ก่อนความเสียหายจะขยายจนกลายเป็นภาระยากเยียวยาในระยะยาว โดยพร้อมร่วมมือหลายหน่วยงานเพื่อผลักดันมาตรการให้ทันต่อสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงทุกวัน"