นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการจัดระเบียบสลากที่มีอยู่ในระบบกว่า 105 ล้านฉบับไปแล้ว 70% ส่วนอีก 30% การจัดสรรสลากในส่วนโควตาขององค์กร สมาคม และมูลนิธิ ซึ่งไม่ได้มีการทบทวนมากกว่า 20 ปีแล้ว
ขณะที่กรณีประเด็นการร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใสสำหรับการจัดสรรสลากให้กับผู้พิการนั้น ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) 14 พ.ย.นี้ จะมีการเสนอแนวคิดใหม่ในการจัดสรรสลากดิจิทัล (L6) ให้แก่กลุ่มคนพิการที่ขึ้นทะเบียนโดยตรงกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งมีผู้พิการ 2 ล้านราย แทนการจัดสรรโควตาผ่านสมาคมหรือมูลนิธิ
“ในการประชุมบอร์ดพรุ่งนี้ จะมีการหารือถึงข้อเท็จจริงการร้องเรียนของผู้พิการ และจะเสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหาโดยจัดสรรโควตาสลากให้กับผู้พิการโดยตรง ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวง พม. อย่างไรก็ตาม ต้องดูมิติจะมีผลกับมูลนิธิ หรือองค์กรต่างๆ และตัวผู้พิการเองหรือไม่ เนื่องจากการจัดสรรสลากแต่ละงวด ตัวแทนจำหน่ายต้องจ่ายค่าสลากล่วงหน้าแต่ละงวดก่อน ซึ่งในบางมูลนิธิ องค์กร สำรองจ่ายให้”
ทั้งนี้ หากจัดสรรโควตาให้กับผู้พิการทั้ง 2 ล้านรายโดยตรงนั้น ต้องดูในมิติความต้องการซื้อสลากดิจิทัลในระบบด้วย ซึ่งจำนวน 2 ล้านคน จะมีสลากดิจิทัลในระบบเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านใบ จากปัจจุบันมีสลากดิจิทัล จำหน่ายทั้งหมด 27 ล้านใบ ในแต่ละงวดก็ขายไม่หมด ฉะนั้น การจะเพิ่มจำนวนสลากจะต้องทยอยเพิ่มสัดส่วนเข้าไป ซึ่งในเรื่องนี้ยังไปอีกหนึ่งประเด็นที่ต้องหารือด้วย เพราะจะเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ผู้พิการต้องแบกรับ
นายลวรณ กล่าวว่า สนง.สลากฯ ยืนยันว่า การจัดสรรโควตาให้กับองค์กร มูลนิธิ และสมาคม ซึ่งมีอยู่กว่า 860 สมาคม มีความโปร่งใส โดยสนง.สลากฯ จะจัดสรรโควตาแต่ละงวดให้กับสมาชิกในองค์กรตามจำนวนที่ระบุไว้ โดยองค์กรนั้นๆ จะเป็นผู้จัดสรรให้กับสมาชิกต่อไป ทั้งนี้ เมื่อมีการร้องเรียนเกิดขึ้น สนง.สลากก็พร้อมเข้าไปตรวจสอบ
“ที่ผ่านมาไม่มีการร้องเรียนเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ยืนยันว่า หากตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริง เช่น การนำชื่อสมาชิกไปใช้โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือสมาชิกไม่ได้รับการจัดสรรสลากตามสิทธิ์ อาจมีการดำเนินการ อาทิ การตักเตือน การตัดโควตา หรือการปรับโควตาใหม่”
สำหรับปัจจุบัน สัดส่วนสลากในระบบทั้งหมดมี 105 ล้านใบ แบ่งเป็น