ประชาชนคาดหวัง รัฐบาลอนุทิน ลดค่าครองชีพ-ควบคุมราคาสินค้า

10 พ.ย. 2568 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2568 | 10:49 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยประชาชนคาดหวัง รัฐบาลอนุทิน ลดค่าครองชีพ/ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค - บริโภค มากที่สุด รองลงมาคาดหวังให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ว่า ประชาชนคาดหวังให้รัฐบาลของนายอนุทินแก้ปัญหาลดค่าครองชีพและควบคุมราคาสินค้าเป็นอันดับแรก (ร้อยละ 40.3)
  • ความคาดหวังในลำดับรองลงมาคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ (ร้อยละ 31.5) และการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา (ร้อยละ 30.8)
  • นโยบายเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุดคือ การสร้างรายได้และลดรายจ่าย ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 86.8

ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า “สำนักงานสถิติแห่งชาติ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายของรัฐบาล พ.ศ. 2568  ระหว่างวันที่ 17 - 23 ตุลาคม 2568

สรุปผลที่น่าสนใจได้ดังนี้

ความคาดหวังต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 40.3 คาดหวังให้รัฐบาลลดค่าครองชีพ/ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค - บริโภค ถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด รองลงมาคาดหวังให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ (ร้อยละ 31.5)  แก้ปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา (ร้อยละ 30.8)  แก้ปัญหาภาคเกษตร เช่น ราคาพืชผลตกต่ำ ลดราคาปุ๋ย เป็นต้น (ร้อยละ 19.4)  และแก้ปัญหายาเสพติด (ร้อยละ 18.1)

ประชาชนคาดหวัง รัฐบาลอนุทิน ลดค่าครองชีพ-ควบคุมราคาสินค้า นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลควรดำเนินการ 5 อันดับแรก จากการสัมภาษณ์ประชาชนตัวอย่าง โดยสามารถตอบได้คนละมากกว่า 1 คำตอบ พบว่า

  • อันดับที่ 1 รัฐบาลควรเร่งดำเนินนโยบายสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ในสัดส่วนที่สูงที่สุด (ร้อยละ 86.8)
  • อันดับที่ 2 เร่งแก้ปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทย - กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ (ร้อยละ 63.8)
  • อันดับที่ 3 แก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง (ร้อยละ 58.5)
  • อันดับที่ 4 ปราบปรามการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง (ร้อยละ 45.3) 
  • อันดับที่ 5 ขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาดและจริงจัง (ร้อยละ 32.8)

ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาของประเทศ ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 31.0 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาของประเทศในระดับมาก - มากที่สุด (มากร้อยละ 27.6 และมากที่สุดร้อยละ 3.4) ในขณะที่ร้อยละ 52.6 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นฯ ในระดับปานกลาง ร้อยละ 13.3 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นฯ ในระดับน้อย และร้อยละ 3.1 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นฯ ในระดับน้อยที่สุด

เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ประชาชนตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 39.3 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นฯ ในระดับมาก - มากที่สุด ในสัดส่วนที่สูงกว่าภาคอื่น

ความพึงพอใจในชีวิตของประชาชน ประชาชนตัวอย่างให้คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในชีวิต 7.10 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10.00 คะแนน เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ประชาชนตัวอย่างในภาคใต้ให้คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในชีวิต 7.32 คะแนน สูงกว่าภาคอื่น ขณะที่กรุงเทพมหานครให้คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในชีวิต 6.75 คะแนน ที่ต่ำกว่าภาคอื่น

ผลการสำรวจที่กล่าวไปนับเป็นการมุ่งสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน อันเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประกอบการกำหนดนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

โดยผลสำรวจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโครงการ “Quick survey สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4 เดือน (ต.ค. 68 - ม.ค. 69)” สำนักงานสถิติแห่งชาติยังมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน อีก 3 ครั้งหลังจากนี้