‘วิชัย เบญจรงคกุล’เสนอสูตรขยายเกษียณบางสายงาน รักษาคนเก่ง

03 พ.ย. 2568 | 05:08 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2568 | 05:20 น.

‘วิชัย เบญจรงคกุล’เสนอสูตรแก้แรงงานภาครัฐ ขยายเกษียณบางสายงาน ชี้ช่วยลดภาระบำนาญ-รักษาคนเก่ง เหตุบุคลากรบางสายงานยังมีประสิทธิภาพสามารถทำงานได้

KEY

POINTS

  • นายวิชัย เบญจรงคกุล เสนอให้ขยายอายุเกษียณราชการเกิน 60 ปี แต่ไม่ควรเกิน 65 ปี และควรพิจารณาเป็นรายสายงาน ไม่ใช่การขยายทั้งหมดไปที่ 70 ปี
  • การขยายอายุเกษียณมีเป้าหมายเพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถและยังมีประสิทธิภาพในการทำงานไว้ในระบบ
  • เสนอให้ขยายอายุแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ครั้งละ 1 ปี เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมด้านงบประมาณและตำแหน่ง
  • ควรมีระบบเกษียณอายุก่อนกำหนดตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นทางเลือกให้ข้าราชการสามารถเปลี่ยนสายอาชีพได้

นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานบริหาร กลุ่มเบญจจินดา หรือ BCG เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับแนวคิดของรัฐบาลขยายอายุเกษียณราชการ อายุ 70  ปี ว่าหากขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 เป็น 70 ปี จะนานเกินไปสำหรับข้าราชการ (ระเบียบข้าราชการบริหารบุคลากรยากกว่าเพราะมีหลากหลายสายงาน เช่น ทหาร/ตำรวจ ข้าราชการหน่วยงานต่างๆ และ รัฐวิสาหกิจ)

อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยว่าควรขยายอายุราชการเกษียณเกิน 60 ปี เพราะบุคลากรบางสายงานยังมีประสิทธิภาพสามารถทำงานได้ นอกจากนี้ ควรทำเป็นระยะ ๆ เช่น ขยายเป็นครั้งละ 1 ปี เพื่อให้มีการเตรียมพร้อมด้านต่างๆ เช่น งบประมาณ อัตรา ตำแหน่ง ทั้งนี้ อายุที่เหมาะสมในการขยายอายุราชการเสนอว่าไม่เกิน 65 ปี (แต่บางสายงานและตำแหน่งอาจจะไม่เหมาะสมกับภารกิจ)

นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่ากลุ่ม BCG กำหนดอายุเกษียณปกติที่อายุ 60 ปี แต่สามารถขยายเวลาการจ้างได้สำหรับบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ ทั้งนี้ การต่ออายุการจ้างรวมแล้วไม่ควรเกิน 5 ปี แต่สามารถจ้างเป็นผู้ชำนาญการพิเศษหลังเกษียณอายุ 65 ปี และ ไม่ควรเกิน 70 ปี ในมุมกลับกัน ระบบราชการควรมีระบบเกษียณก่อนกำหนด ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการสามารถเปลี่ยนสายอาชีพได้

นายวิชัย เบญจรงคกุล

 

“แน่นอนว่าผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆของข้าราชการ ควรมีการทบทวนให้เหมาะสม เป็นการจูงใจแต่ก็ไม่ก่อให้เกิดภาระแก่งบประมาณระยะยาว ซึ่งหลายๆอย่างควรได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมในยุคเวลาปัจจุบัน” นายวิชัยกล่าว.