“ฐานเศรษฐกิจ” ยังเกาะติดโครงการคนละครึ่งพลัส www.คนละครึ่งพลัส.com สำหรับในวันนี้ 29 ตุลาคม 2568 เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ลงทะเบียนที่ได้รับสิทธิจำนวน 20 ล้านคน เริ่มใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการผ่านแอปฯถุงเงิน ที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 523,603 ร้านค้า แบ่งเป็น
- ร้านค้ารายเดิม 94,669 ร้านค้า
- ร้านค้ารายใหม่ 428,934 ร้านค้า
ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 101,741 ร้านค้า
- รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการฯ 97,300 ร้านค้า
- รอดำเนินการตรวจสอบ 4,441 ร้านค้า
กลุ่มผู้ยื่นแบบภาษี
- รับสิทธิใช้จ่าย 2,400 บาท/คน
- จำนวน 9 ล้านคน
ผู้ไม่ยื่นแบบภาษี
- รับสิทธิใช้จ่าย 2,000 บาท/คน
- จำนวน 11 ล้านคน
ภาครัฐจ่าย 50% (สูงสุดไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน)
- เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น.
ประเภทสินค้าและบริการที่ใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส 2568 ได้
โครงการคนละครึ่งพลัสได้กำหนดให้ซื้อสินค้าได้ ดังต่อไปนี้
- อาหาร
- เครื่องดื่ม
- สินค้าทั่วไป
- บริการนวด
- สปา
- ทำเล็บ
- ทำผม
บริการขนส่งสาธารณะ
- บริการขนส่งสาธารณะ
- รถไฟฟ้า
- รถไฟ
- รถโดยสารประจำทาง
- เรือ
- แท็กซี่
- รถตู้
- รถสองแถว
- รถสามล้อถีบ
ทั้งนี้ ต้องมีการซื้อสินค้าและบริการจริง ตรงตามมูลค่าที่สแกนจ่าย ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการทอนเงินสด หรือรับแลกสินค้า/บริการ คืนเป็นเงินสดไม่ว่ากรณีใดๆ
สินค้าที่ซื้อไม่ได้
- สลากกินแบ่งรัฐบาล
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
- บัตรกำนัล
- บัตรเงินสด
- บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
- ใช้จ่ายกับร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 21:00 น.
- เฉพาะร้านอาหาร/เครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น (ไม่รวมค่าจัดส่ง)
วิธีใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส 2568
- ประชาชนต้องใช้จ่ายค่าสินค้า บริการ (ตามเงื่อนไขของโครงการ) ผ่านกระเป๋าเงิน G Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง กับร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส
อย่างไรก็ตามยังมี คำถามว่า : คนละครึ่งพลัส สามารถซื้อมือถือ และ จ่ายค่าเน็ตได้หรือไม่?
คำตอบ คือ :โครงการคนละครึ่งพลัสกำหนดให้ใช้สิทธิ์ซื้อ สินค้าทั่วไป สินค้าจำเป็น อาหารและเครื่องดื่ม หรือ บริการต่างๆ แต่ ไม่สามารถใช้ซื้อโทรศัพท์ และ จ่ายค่าเน็ต ได้ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขโครงการ.
ที่มา: