KEY
POINTS
วันนี้ (26 กันยายน 2568) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายกระทรวงพาณิชย์ในรายละเอียดจะต้องรอนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงสัปดาห์หน้าก่อน แต่ถ้าพูดในภาพกว้าง คือต้องดูในเรื่องความสมดุลด้านการค้าต้องดูทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้เกิดความสมดุลมากที่สุด ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆในกระทรวงฯ รวมถึงกระทรวงอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ มาตรการเร่งด่วนที่จะต้องเร่งเข้าไปดูแลนั้นมีอยู่แล้วตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีมาตรการออกมาอย่างรวดเร็ว คือ Quick win และ Quick big Win สำหรับวางรากฐานเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีเวลาทำงานแค่ 4 เดือนถือว่ามีเวลาอยู่จำกัดดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกทำนโยบายก่อนหลังเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ในห้วงเวลาที่มีความจำกัด
"กระทรวงพาณิชย์ มีเรื่องต้องทำมากมาย ต้องมาพูดคุยกันกับผู้บริหารกระทรวงฯ ว่าจะจัดเรียงความสำคัญอะไรก่อนหลัง เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ในช่วงระยะเวลาที่มีความจำกัดนี้"
ด้านปัญหาเงินบาทแข็งค่า ถือเป็นความลำบากของผู้ส่งออก ซึ่งตอนนี้คณะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจทั้งหมดต้องร่วมมือกันจัดการปัญหานี้ โดยต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับกระทรวงพาณิชย์ มีหน้าที่ประสานและทำให้นโยบายนั้นสำเร็จให้ได้และช่วยผู้ส่งออกให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ การดูแลราคาสินค้า กระทรวงฯ มีระบบในการดูแลข้อมูล Demand-Supply และเตรียมความพร้อมสำหรับแต่ละฤดูกาลล่วงหน้า สำหรับสินค้าสำคัญ เช่น กาแฟ ข้าว ที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงปลายปี
นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องตลาดต่างประเทศ เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.68) กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับประเทศหนึ่งแล้ว และปี 68 นี้ มีเป้าหมายต้องเจรจาการค้าระหว่างประเทศระดับทวิภาคีให้สำเร็จอีก 2-3 ประเทศ และในระดับ Joint agreement และ Trade Mission
"ช่วง 4 เดือนที่จะเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ แต่ขอให้รอหลังนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบาย และต้องรับฟังถึงสภาผู้แทนราษฎร แล้วนำมาปรับเป็นมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป"
สำหรับประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา มองว่า ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆไม่ใช่แค่ผู้ส่งออก เพราะการหาตลาดใหม่ไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป การส่งออกและการนำเข้าข้ามแดนมีผู้ที่มีความสามารถมาร่วมทำงาน โดยเฉพาะเรื่องการหาตลาดใหม่ แต่ผู้ที่เดือดร้อนมากกว่า อาจเป็นคนที่อยู่บริเวณนั้นที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
ขณะเดียวกัน ต้องประสานงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัด รวมถึงประสานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม การเข้ามารับตำแหน่ง และไม่มี รมช. เข้ามาช่วยงานก็ไม่ได้หนักใจ เพราะขณะนี้มีทีมงานที่มีความสามารถ ที่สำคัญไม่ได้ยึดถือหลักในการทำงานอยู่แล้ว
“เราเข้ามาที่กระทรวง มีคนที่มีความรู้มากกว่า เราก็มีหน้าที่ทำในสิ่งที่เรามี เอาสิ่งที่เรามีมาช่วยกันสอดประสาน เอามุมมองจากสิ่งที่ทางกระทรวงไม่เคยมองมุมนี้ แต่ก็ต้องยึดทางปลัด รองปลัด และอธิบดี มาช่วย”
ทั้งนี้ วันที่ 29 และ 30 กันยายน 2568 จะมีการแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้วเสร็จ โดยวันที่ 1 ตุลาคม 2568 จะมีการประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง