KEY
POINTS
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ เลขาธิการสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งเอเชียแปซิฟิก (FARPA) กล่าวแสดงความคิดเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องเร่งดำเนินการคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจในผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยกระตุ้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อให้จับจ่ายใช้เงิน ภายใต้แนวคิด Shopping & Wellness Tourism
เช่น การลดภาษีนำเข้าสินค้าลักชัวรี เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวช้อปปิ้ง ขณะเดียวกันก็ใช้จุดแข็งของประเทศไทยในเรื่องของ wellness มาขับเคลื่อนทำให้เกิดกำลังซื้อ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มคนระดับกลาง-บน
ขณะที่กลุ่มคนระดับกลาง-ล่าง ซึ่งมีแรงงานในภาคนอกเกษครและอยู่ในระบบประกันสังคมราว 12 ล้านคน การลงทุนเพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว จำเป็นต้องใช้เงินใส่ลงไป แต่ต้องเป็นการใส่เงินแล้วเกิดประโยชน์ เช่น การ Up-skill Re-skill โดยให้ภาครัฐจัดสรรงบประมาณไปยัง สถาบันการศึกษา สถาบันฝึกอบรมต่างๆ
โดยให้มาลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” บุคลากร ผู้ใช้แรงงาน ลงทะเบียนเรียน พัฒนาทักษะ กับสถาบันการศึกษา สถาบันฝึกอบรมต่างๆที่ได้มาตรฐานตามที่ลงทะเบียนไว้ใน เมื่อได้รับใบรับรองการอบรมหลักสูตรมาเสนอให้นายจ้างเห็นชอบ ก็ได้รับเงินเป็นแรงจูใจตอบแทน ก็จะทำให้มีเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นอกจากนี้รัฐบาลควรกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน “รัฐครึ่งเอกชนครึ่ง” โดยสนับสนุนการจ้างงานใหม่ในเมืองใหญ่ โดยรัฐร่วมจ่ายเงินเดือน 50% แต่ไม่เกิน 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเน้นการจ้างงานในกลุ่มแรงงานที่ตกงาน บัณฑิตจบใหม่ และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่ ลดอัตราการว่างงานและเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ
“วันนี้ใครจะมานั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หรือใครจะขับเคลื่อนรัฐบาล สิ่งสำคัญคือ จะต้องสร้างงาน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบ ซึ่งการจะลดหนี้ครัวเรือนเป็นเรื่องยาก ถ้าไม่มีรายได้มากขึ้น ดังนั้นการ Up-skill Re-skill จะเป็นการเพิ่มทักษะ เพิ่มความสามารถในการทำงาน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับลูกจ้างและนายจ้างเองด้วย”