‘ธนารักษ์’ จับมือสาธารณสุข นำ 6 ที่ราชพัสดุ ยกระดับบริการแพทย์

22 ส.ค. 2568 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2568 | 13:47 น.

ธนารักษ์ เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing ยกระดับการบริหารที่ราชพัสดุ จับมือสาธารณสุข นำร่อง 6 พื้นที่ เพิ่มบริการแพทย์ให้แก่ประชาชน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้เปิดตัวโครงการ Landlord Sharing โดยมอบอำนาจให้ส่วนราชการดำเนินการจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนโครงการด้านสังคมและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ และได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง เรื่องการมอบอำนาจให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดหาประโยชน์ในพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครอง เพื่อวางรากฐานการพัฒนาระบบสาธารณสุขในระยะยาว

สำหรับปัจจุบันประเทศไทยมีที่ราชพัสดุรวมกว่า 12.6 ล้านไร่ แต่กว่า 10 ล้านไร่ อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการ โดยบางพื้นที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ ส่งผลให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการพัฒนา เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าว

กรมธนารักษ์จึงพลิกบทบาทจาก “ผู้ดูแล” สู่ “ผู้ขับเคลื่อน” ผ่านโครงการ Landlord Sharing “หัวใจสำคัญของโครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ VALUE ที่มุ่ง สร้างคุณค่า (Value Creation) และ แบ่งปันคุณค่า (Value Sharing) ผ่านการใช้ทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์รอบด้าน ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ, การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน, การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนบริการสาธารณะที่จำเป็น

สำหรับการร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อยกระดับบริการแก่ประชาชน โดยเริ่มจากการดำเนิน โครงการนำร่อง (Sandbox) ในการก่อสร้างอาคารสำหรับศูนย์บริการทางการแพทย์, หอผู้ป่วยพิเศษ และอาคารจอดรถ เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุข ให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โครงการนำร่องมีทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่

‘ธนารักษ์’ จับมือสาธารณสุข นำ 6 ที่ราชพัสดุ ยกระดับบริการแพทย์

  1. โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
  2. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ศูนย์ Wellness (ศูนย์สุขภาพและฟื้นฟู) สถานพักฟื้นและรอรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
  3. โรงพยาบาลสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบด้วย ศูนย์บริการมะเร็ง หัวใจ และเวชศาสตร์วิถีชีวิต พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
  4. โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
  5. โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ (โรงพยาบาลบางละมุง) จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย หอผู้ป่วยพิเศษ ที่พักระหว่างการรักษา พื้นที่บริการทางการแพทย์ และอาคารจอดรถ
  6. โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อาคารบริการและสนับสนุนทางการแพทย์ 

“โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นโครงการแรกที่คาดว่าจะเริ่มโปรเจ็คได้ในปี 2569 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ารัฐ 3% จัดทำเป็นสัญญาเช่านาน 30 ปี ซึ่งการเดินหน้าโครงการครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มจำนวนเตียงเป็น 810 ห้อง จากเดิม 750 ห้อง”

นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังได้จัดทำหลักเกณฑ์และคุณสมบัติที่ชัดเจนเพื่อเป็นกรอบการทำงานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นสนับสนุนโครงการเชิงสังคมที่อยู่ภายใต้ภารกิจตามกฎหมายของหน่วยงาน รวมถึงโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือชุมชนโดยรอบ มีเงื่อนไขสำคัญ ดังนี้

  1. เป็นโครงการเชิงสังคมด้านสาธารณสุข ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
  2. โครงการต้องเป็นไปตามภารกิจและกฎหมายของส่วนราชการนั้นๆ
  3. ไม่เป็นโครงการภายใต้กฎหมาย PPP และการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจ
  4. เปิดประมูลให้เอกชนพัฒนาโครงการและจัดสรรพื้นที่ตามโครงการให้ส่วนราชการใช้ในราชการ
  5. ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีตามกฎหมายที่ราชพัสดุและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  6. นำส่งรายได้จากการให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน  
  7. มีมาตรการกำกับและควบคุมราคาค่าบริการที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน
  8. รายงานผลการดำเนินการให้กรมธนารักษ์ทราบทุกไตรมาส

“การมอบอำนาจนี้ไม่ใช่การโอนกรรมสิทธิ์ โดยที่ราชพัสดุยังคงเป็นของรัฐ ระยะเวลาการใช้ประโยชน์ไม่เกิน 30 ปี และเพื่อความโปร่งใส หน่วยงานที่รับมอบอำนาจต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อกรมธนารักษ์ทุกไตรมาส หากฝ่าฝืนข้อตกลง กรมฯ มีสิทธิเพิกถอนอำนาจได้ทันที”