ดีพร้อมทุ่มงบ 1.5 ล้าน ดันผู้ประกอบการไทยต่อยอดสู่ตลาดโลก

นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับผู้ประกอบการไทย เพื่อให้สามารถต่อยอดช่องทางการทำตลาด ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

โดยการทุ่มเงิน 1.5 ล้านบาทจากเงินงบประมาณของดีพร้อมปี 68 เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะมุ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ในสัดส่วน 70:30 หรือประสบการณ์จริง:ความรู้ทฤษฎี ผ่านการอบรม การศึกษาดูงาน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และกระบวนการบ่มเพาะธุรกิจ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนเห็นภาพรวมและทิศทางการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่สนามธุรกิจจริง 

ทั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการผ่านกิจกรรมการปลดล็อกศักยภาพการสื่อสารในตลาดดีพร้อม ภายใต้โครงการเร่งการจัดตั้งและขยายธุรกิจ                       ของผู้ประกอบการอัจฉริยะ

ซึ่งมีการหลักนำกูรูและผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจจริง รวมถึงนักการเงินและธนาคารที่มีประสบการณ์ในการปล่อยสินเชื่อ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ แนะนำการเตรียมตัวเพื่อเข้าถึงแหล่งทุน โดยจะช่วยให้เข้าใจมุมมองของสถาบันการเงินต่อธุรกิจของตนเองว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง  

และควรปรับตัวอย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อีกทั้งผจะได้เรียนรู้จากนักการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ในยุคปัจจุบัน

“การสร้างผู้ประกอบการใหม่ ไม่ได้เริ่มต้นเพียงแค่แนวคิดธุรกิจ แต่ต้องเริ่มจากการปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ วางกรอบแนวคิด กลยุทธ์ และเป้าหมายที่ชัดเจน แสวงหาองค์ความรู้ เครื่องมือสนับสนุน นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจใหม่”

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการใหม่มักเผชิญกับข้อจำกัดด้านทีมงานและเงินทุน จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ โดยหลักสูตรการสร้างผู้ประกอบการใหม่ (NEC) หรือ Startup จึงถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบ

“ดีพร้อมตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับศักยภาพพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจโดยมีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้และการพัฒนาทักษะภาษา เพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และได้รับองค์ความรู้ทางด้านแผนกลยุทธ์ธุรกิจระยะสั้นอย่างตรงจุด รวมถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจต่อไป”

นายดุสิต กล่าวต่อว่า ดีพร้อมมุ่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้มีความพร้อมทั้งด้านการสื่อสาร การขาย และกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อลงสู่ตลาดจริงอย่างมั่นใจ ไม่เพียงช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในประเทศเท่านั้น หากยังวางรากฐานในการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา กรมฯ พบว่า ผู้เข้าร่วมการอบรมมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในด้านการนำเสนอสินค้า การสื่อสารกับลูกค้า และการวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาต่อยอดและขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต 

นอกจากนี้ ยังสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการจากหลากหลายพื้นที่ และเป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อเป็นโอกาสในการช่วยเหลือ หรือต่อยอดธุรกิจซึ่งกันและกันในอนาคตได้