รู้จัก "กุลยา ตันติเตมิท" นั่งครบ 3 กรมภาษี ว่าที่ปลัดคลังหญิงคนแรก

23 ก.ค. 2568 | 05:28 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2568 | 05:36 น.

ทำความรู้จัก “กุลยา ตันติเตมิท” จากลูกหม้อ สศค. นั่งตำแหน่งอธิบดีครบ 3 กรมจัดเก็บภาษี จับตาก้าวสู่ตำแหน่งปลัดคลังหญิงคนแรก

หลังจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง 6 ราย โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 นั้น “น.ส.กุลยา ตันติเตมิท” อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการโยกย้าย โดยไปดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมศุลกากร แทนนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ที่จะเกษียณอายุราชการ วันที่ 30 ก.ย.นี้

สำหรับ “น.ส.กุลยา ตันติเตมิท” ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งเก้าอี้อธิบดีครบ 3 กรมจัดเก็บภาษีหลักของประเทศ ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เป็นที่น่าจับตาว่า เธอได้ถูกวางตัวให้ไปเรียนรู้งานภาพรวมหน่วยงานหลักในกระทรวงการคลัง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังคนต่อไป ซึ่งจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งตำแหน่งปลัดคลัง

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต

ทั้งนี้ เรียกได้ว่า ดีกรีของ “กุลยา ตันติเตมิท” นั้นไม่ธรรมดา ทั้งประวัติการทำงาน และการศึกษา ถือว่าครบถ้วน

รู้จัก “กุลยา ตันติเตมิท”

กุลยา ตันติเตมิท” เป็นลูกหม้อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เช่นเดียวกันกับ นายลวรณ แสงสนิท ที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังในปัจจุบัน โดยเธอเคยบอกเล่าถึงเส้นทางการทำงานในรั้วกระทรวงการคลัง ว่า เธอเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สศค. , อธิบดีกรมบัญชีกลาง, อธิบดีกรมสรรพากร และปัจจุบันดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต

โดยเธอจบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับทุนรัฐบาลสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อศึกษาต่อเศรษฐศาสตร์ ปริญญาโท และปริญญาเอก ตามความต้องการของ สศค. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง

“จุดเริ่มต้นของเส้นทางรับราชการมาจากครอบครัว ที่พ่อกับแม่รับราชการมาก่อน ซึ่งหลังเรียนจบได้กลับมาใช้ทุนที่สศค. โดยเริ่มทำงานด้านเศรษฐกิจ จนก้าวหน้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ช่วงปี 2554”น.ส.กุลยา กล่าว

นอกจากนี้ “กุลยา” ยังเล่าถึงประสบการณ์ทำงานของเธอ ว่า การทำงานที่สศค. ถือว่าได้รับโอกาสที่ดี เพราะสศค. เป็นทั้งนโยบายที่เห็นในภาพกว้าง และหลักการต่างๆ และเมื่อย้ายมาไปกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นเรื่องใช้จ่าย ก็จะมีเรื่องกฎระเบียบในการใช้จ่ายและขั้นตอน เป็นเรื่องกฎหมาย เป็นงานอีกด้านหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ และเมื่อขยับไปกรมจัดเก็บรายได้ เริ่มจากกรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ก็ได้เรียนรู้หลักการในการปฏิบัติ

“ข้อดีในการทำงานหลายๆ กรม คือ เราจะเห็นภาพรวมของกระทรวงการคลังได้หลายด้าน เมื่อมาอยู่ในกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ก็จะรู้เรื่องการจัดเก็บภาษี อยู่ที่กรมบัญชีกลางก็จะรู้ขั้นตอนปฏิบัติ การควบคุมหน่วยงานของเราให้เป็นไปตามระเบียบ"น.ส.กุลยา กล่าว

ทั้งนี้ ข้อดีของผู้บริหารที่ได้เห็นงานหลายๆ ด้าน เมื่อมีการวางนโยบายสำหรับเศรษฐกิจและการคลังของประเทศในภาพรวม ก็จะเห็นได้ชัดเจนและวางนโยบายต่างๆ ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ประวัติการทำงาน

  • ช่วงปี 2554-2556 ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
  • ช่วงปี 2556-2559 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
  • ปี 2559 ดำรงตำแหน่งปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวงการคลัง
  • ช่วงปี 2561-2563 ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร กลุ่มธนาคารโลก
  • ปี 2563 ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
  • ปี 2564 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
  • ปี 2564 ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง
  • ปี 2566 ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร
  • ปี 2567 ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต

ประวัติการศึกษา

  • จบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • จบปริญญาโทถึง 2 ฉบับ คือ ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ (MS), Brandeis University, USA และปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ (MA), Boston University, USA
  • จบปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ (PhD) สาขา International Economics and Finance, Brandeis University, USA