‘พิชัย’ ยันผู้ว่า ธปท. มีอิสระ ย้ำนโยบายการเงิน-การคลัง ต้องสอดคล้องกัน

22 ก.ค. 2568 | 09:27 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2568 | 06:50 น.

‘พิชัย’ ชี้ผู้ว่า ธปท. มีความอิสระ ยืนยัน “วิทัย รัตนากร” เข้ามา ไม่มีปัญหา ระลุนโยบายการเงิน-การคลัง ต้องสอดคล้องกัน ฝั่ง ‘เผ่าภูมิ’ หวังแก้เงินเฟ้อต่ำ-บาทแข็ง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลำดับที่ 25 นั้น เราไม่ต้องฝากอะไรโดยตรง เนื่องจาก ธปท. มีภารกิจอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาทำงานร่วมกันด้วยดี

“ที่ผ่านมา นโยบายการเงินและการคลัง ค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากันด้วยดี มีการทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยยังคงยึดหลัก หากข้อมูลถึงกัน ร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และผลักดันเศรษฐกิจแล้ว นโยบายการเงินที่มีความเหมาะสม ก็มีความอิสระที่ ธปท. สามารถตัดสินใจดำเนินการ”

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

สำหรับสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกนั้น ยอมรับว่า ผู้ที่ได้รับคัดเลือก ดีทั้งคู่ แต่หากพิจารณาจากประสบการณ์ คนหนึ่งจะทราบเรื่องภายใน ธปท. เป็นอย่างดี ส่วนอีกท่านหนึ่งจะรู้ปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีมีปัญหาหลากหลายจริงๆ ส่วนข้อกังวลว่า หากนายวิทัย รัตรนากร เข้าไปทำงานใน ธปท. จะทำงานยากนั้น มองว่า ธปท. ทำงานมีหลักการ เมื่อเราทำงานด้วยหลักการ ทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหา

ขณะที่ข้อกังวลว่าการทำงานระยะต่อไปจะเป็นการชี้นำจากทางการเมืองหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า สไตล์การทำงานของตนไม่กดดัน เราพูดกันด้วยเหตุและผล ทำงานด้วยความเข้าอกเข้าใจ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อเข้ามาแล้ว ผู้ที่เป็นผู้ว่า ธปท. ต้องรับผิดชอบองค์กร และงานตัวเอง 

“เขาต้องมีความอิสระเรื่องการทำงาน และแนวคิด อย่างไรก็ตาม หวังว่าการทำงานนโยบายการคลัง ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้อง และเป็นอิสระทางความคิด”

ส่วนการเข้ามาของ ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ คาดหวังจะเห็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลงหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องการพิจารณาของ กนง. เชื่อว่า กนง. คงประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา เหตุการณ์ปัจจุบัน รวมถึงนโยบายภาษีสหรัฐด้วย เพื่อกำหนดนโยบาย ซึ่งเราไม่ควรคิดแทนล่วงหน้า

ขณะที่ตลาดหุ้นตอบรับ ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ดัชนีหุ้นแบงก์ปรับลดลง เพราะกังวลการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ผลประกอบการแบงก์สะท้อนตามภาวะเศรษฐกิจ หากร่วมกันผักดันให้ภาวะเศรษฐกิจดี ผลประกอบการแบงก์ก็จะดีตามไปด้วย ทั้งนี้ มองว่า หากทิศทางของดอกเบี้ยลดลง ไม่ได้แปลว่าส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) จะต้องลดลงเสมอไป เนื่องจากเป็นเรื่องความเสี่ยงที่สถาบันการเงินต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อ 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องผู้ว่า ธปท. คนใหม่นั้น ไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องส่วนบุคคลได้ว่าการแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงการคลังขับเคลื่อนไปได้ดีขึ้นหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการพิสูจน์

อย่างไรก็ตาม ในด้านการทำงานในอนาคต อยากเห็นกระทรวงการคลังและ ธปท. มีการหารือกันมากขึ้น เพื่อทำให้นโยบายการคลังและนโยบายการเงินเดินไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดประสานกัน

ขณะเดียวกัน อยากให้ ธปท. พิจารณาถึงความเหมาะสมของกฎเกณฑ์เรื่องการกระจายสินเชื่อและการเข้าถึงแหล่งเงินของประชาชน ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อของไทยขณะนี้ อยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ดังนั้น ภาคนโยบายการเงินและนโยบายการคลังก็ต้องช่วยกันดูแลเรื่องนี้ ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้นในช่วงนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องดูแลต่อไป

“เวลาออกเกณฑ์ต่าง ๆ ถ้าระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงของเสถียรภาพการเงินเป็นหลักมากเกินไป ไม่เปิดรับความเสี่ยงเลย แม้จะทำให้แบงก์แข็งแรงแต่ก็ทำให้ศักยภาพลดลงคือ การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินลดลง เงินไม่ลงสู่ระบบ ดังนั้นก็ต้องสร้างสมดุลระหว่างเสถียรภาพกับศักยภาพ“