แต่งตั้งข้าราชการฝุ่นตลบ สะพัดโยก เอกนิติ-พชร ข้ามห้วยนั่งเลขาสภาพัฒน์ฯ

วงการราชการกำลังจับตาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงครั้งใหญ่ในหลายตำแหน่งสำคัญในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะเก้าอี้เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ "สภาพัฒน์" ซี 11 เทียบเท่าปลัดกระทรวง ซึ่งนายดนุชา พิชยนันท์ จะครบอายุการต่อวาระดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 ในเดือนตุลาคม 2568 นี้ อาจถูกโยกไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงอื่น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นที่ใด หรืออาจจะมีวาระการดำรงตำแหน่งรอบ 2 เพราะยังมีงานสำคัญที่ต้องทำคือการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14

รายงานข่าวเปิดเผยว่า มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะทาบทาม ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในสังกัดกระทรวงการคลังให้เข้ามารับตำแหน่งเลขาสภาพัฒน์ เพราะนายเอกนิติ เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านการวางแผนเศรษฐกิจมหภาคเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งระดับอธิบดีในหลายหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ยังเหลืออายุราชการอีก 6 ปี

ดร.เอกนิติ นับเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีประสบการณ์บริหารองค์กรภาครัฐและเอกชนอย่างกว้างขวาง ด้วยวุฒิการศึกษาปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้ ดร.เอกนิติเคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะอธิบดีกรมสรรพสามิตระหว่างปี 2565-2567 และอธิบดีกรมสรรพากรในปี 2561-2565 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักในการจัดเก็บรายได้ของประเทศ

ในภาคเอกชน ดร.เอกนิติเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในองค์กรชั้นนำ อาทิ ธนาคารกรุงไทย การบินไทย และปัจจุบันเป็นประธานกรรมการธนาคารทหารไทยธนชาต นอกจากนี้ยังเคยเป็นกรรมการในหลายบริษัทสำคัญ เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ และ IRPC

อีกคนที่มีชื่ออาจถูกโยกไปนั่งเลขาสภาพัฒน์ คือ นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีประสบการณ์บริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ด้วยวุฒิการศึกษา MBA จากสหรัฐอเมริกาและปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เคยเป็นผู้บริหารที่ผ่านการบริหารหน่วยงานสำคัญของกระทรวงการคลัง ทั้งตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร (2563-2566) อธิบดีกรมสรรพสามิต (2561-2563) และอธิบดีกรมธนารักษ์ (2560-2561) รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง

นายพชร ยังเป็นประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และกรรมการ PTT Global Chemical นอกจากนี้ยังเคยเป็นประธานกรรมการในองค์กรชั้นนำหลายแห่ง อาทิ ธนาคารออมสิน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเคยเป็นกรรมการ PTTEP

อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่ายังมีข้าราชการระดับ 10 และ 11 บางรายพยายามวิ่งเต้นเข้ามาเป็นเลขาสภาพัฒน์ฯ แทนนายดนุชา เช่นกัน

สำหรับนายนายดนุชานับเป็นข้าราชการระดับสูงที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ ทำงานในสภาพัฒนาฯ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับนักวิเคราะห์จนถึงตำแหน่งเลขาธิการในปี 2563 โดยมีประสบการณ์ครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์โครงการลงทุนภาครัฐ การวางนโยบายและแผนงาน และการบริหารระดับสูง ที่สำคัญคือรู้ระบบและโครงสร้างการทำงานของสภาพัฒน์เป็นอย่างดี

ปัจจุบันนายดนุชายังดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายองค์กร ทั้งกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) กรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ขณะที่การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงการคลัง มีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2568 มีทั้งหมด 5 คน โดยในระดับอธิบดี มีเพียงคนเดียวคือ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร

มีรายงานว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในระดับอธิบดีของกระทรวงการคลังครั้งนี้จะมีการย้ายน.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากรแทนตำแหน่งที่วางลง จากนั้นจะโยกนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ไปเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิตแทน

นายพรชัย ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจและการเงิน โดยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศในช่วงสำคัญหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่มีการออกมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในหลายเรื่อง เช่นมาตรการคนละครึ่ง

นายพรชัยยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ เช่น พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และหนี้สินภาคประชาชน รวมทั้งการผลักดันแนวคิด negative income tax หรือ NIT ซึ่งเป็นเครื่องมือทางภาษีที่รัฐบาลโอนเงินให้กับคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในอัตราที่เป็นสัดส่วนต่อรายได้ เป็นต้น

นอกจากนี้นายพรชัยยังมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านกลยุทธ์และกฎหมาย โดยมีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้กับบริษัท

ส่วนคนที่จะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการสศค.คนใหม่มี 2 ตัวเต็ง คือ นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง กับ นางแพทริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง แต่นายวุฒิพงศ์มีโอกาสที่ดีกว่า

หากมีการย้ายนายเอกนิติไปเป็นเลขาสภาพัฒน์ มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแต่งตั้ง นายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นอธิบดีธนารักษ์คนใหม่แทนนายเอกนิติ

อีกกระทรวงที่ต้องจับตาคือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ที่นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะเกษียณอายุราชการ มีรายงานว่าจะแต่งตั้งจากคนนอก

ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ค่อนข้างชัดเจนว่าจะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่งตั้ง นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯ แทนนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุ