ดีเดย์! 1 ต.ค.นี้ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ครม. อนุมัติ 13 เส้นทาง

08 ก.ค. 2568 | 06:46 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ค. 2568 | 06:49 น.

ครม. อนุมัติ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” รวม 13 เส้นทาง เริ่ม 1 ตุลาคม 2568 นี้ เป็นระยะเวลา 1 ปี เบื้องต้นจะใช้วงเงินในการดำเนินการกว่า 5,668 ล้านบาท พร้อมเปิดลงทะเบียน

วันนี้ (8 กรกฎาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” หรือมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ในราคาไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของรัฐบาล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568-30 กันยายน 2569

สำหรับมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 286.84 กิโลเมตร 193 สถานี ประกอบด้วย

  • รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม สายสีแดงอ่อน และแอร์พอร์ตลิงก์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
  • รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีเหลือ สายสีชมพู ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
  • รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสุขุมวิท สายสีลม และสายสีทอง ของกรุงเทพมหานคร (กทม.)

เบื้องต้นจะใช้วงเงินในการดำเนินการจำนวน 5,668 ล้านบาท แบ่งเป็น การชดเชยรายได้ค่าโดยสาร ซึ่งมีแหล่งเงินจากงบประมาณแผ่นดิน เงินกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินอื่นที่เหมาะสม อีกส่วนคือ การพัฒนาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง ซึ่งจะใช้เงินจากงบกลาง โดยในการดำเนินมาตรการทั้งหมดจะครองคลุม 1 ปี

ใครใช้บริการต้องลงทะเบียน

ทั้งนี้ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จัดอยู่ในนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้คำมั่นไว้กับประชาชน ที่จะเร่งดำเนินการ ซึ่งมั่นใจว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องด้วยผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีรูปแบบสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถที่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขทางธุรกิจแตกต่างกัน จึงได้กำหนดให้ประชาชนลงทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนดบนแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" เพื่อรองรับการใช้งานตามนโยบาย

โดยเงื่อนไขการลงทะเบียนนั้น ก็เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น โดยระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก และสามารถใช้ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่เคยลงทะเบียนไว้) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าผ่านแอปฯ “ทางรัฐ”

ทั้งนี้ บัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานหลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยจะครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว,สีทอง,สีเหลือง,สีชมพู,สีน้ำเงิน,สายสีม่วง,สายสีแดง และ สายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL)

ทั้งนี้การใช้บริการรูปแบบบัตร Rabbit Card (บัตรเติมเงิน) จะใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (หรือบัตรเครดิต Visa/Mastercard) สามารถใช้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, ARL (ไม่รวมสีทองและสีเขียว) โดยในอนาคตจะมีการเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน

ผลประโยชน์ที่จะได้รับ

ทั้งนี้ยังได้ประมาณการผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วง 1 ปี ในเชิงปริมาณและมูลค่าจากจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่ได้รับผลประโยชน์ ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่

  1. ด้านเศรษฐกิจ ประเมินจากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์
  2. ด้านสังคม ประเมินจากค่าความสุข และ การลดมูลค่าความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ
  3. ด้านสิ่งแวดล้อม ประเมินจากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

โดยทั้ง 3 ด้าน ประเมินเป็นประโยชน์ในการประหยัดงบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท และภายในช่วงเดือน สิงหาคม 2568 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ค่าโดยสาร 20 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และภายใน 1 ตุลาคม 2568 จะเริ่มดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า สูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาล และภายหลังจากนั้นจะมีกระบวนการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้โครงสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง