ขุนคลังเร่งยื่นข้อเสนอสหรัฐก่อน 9 ก.ค. ปัดข่าวลือเก็บภาษีไทย 36%

06 ก.ค. 2568 | 11:56 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2568 | 12:01 น.

รมว.คลัง ปัดข่าวลือสหรัฐฯ เก็บภาษีไทย 36% เร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค.นี้ ยึดหลัก Win-win หวังภาษีต่ำสุด หนุนไทยแข่งขันได้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (6 ก.ค. 2568) ได้มีการหารือกับคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ เพื่อหารือการปรับปรุงข้อเสนอตามที่ได้ประชุมกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า กระแสข่าวว่าไทยจะถูกจัดเก็บอัตราภาษีที่ 18 – 36% ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ปัจจุบันทีมประเทศไทยยังไม่ได้ข้อสรุปว่า อัตราภาษีที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ 

โดยการตัดสินใจอัตราภาษีทั้งหมดนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ จะแจ้งผลภาษีอย่างเป็นทางการและแจ้งพร้อมกัน ขอให้รอผลอย่างเป็นทางการเท่านั้น

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

สำหรับข้อเรียกร้องที่ต้องการให้เปิดเผยประเด็นการพูดคุย ตนต้องเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่า การพูดคุยทุกวันนี้และทุกนาที เป็นการเจรจากับทุกทีมที่เกี่ยวข้องทั้งของสหรัฐฯ และไทย ซึ่งยังถือเป็นชั้นความลับที่เปิดเผยไม่ได้ตามข้อตกลงและมารยาทการเจรจา เพราะมีข้อเจรจาที่ยังต้องพิจารณากันอีก

อย่างไรก็ตาม ยืนยันได้ว่าคณะทำงานปักธงเจรจาโดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ ข้อตกลงจะต้อง Win-win และยั่งยืนกับทั้งสองประเทศ ซึ่งผลลัพธ์ที่คาดหวังก็คือการทำให้ภาคเศรษฐกิจ ภาคประชาชนของประเทศไทยยังคงแข่งขันได้บนเวทีโลก

ขุนคลังเร่งยื่นข้อเสนอสหรัฐก่อน 9 ก.ค. ปัดข่าวลือเก็บภาษีไทย 36%

“ผมคิดว่าการที่ทางสหรัฐฯ มาคุยกับทีมประเทศไทยเป็นสัญญาณที่ชี้ไปในทางบวก สหรัฐฯ ยังเปิดโอกาสทำงานร่วมกับเราเพื่อหาจุดลงตัวของทั้ง 2 ประเทศ และในการประชุมวันนี้ หลังจากที่เราได้พูดคุยกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ฯลฯ แล้ว ’ทีมไทยแลนด์‘ จะได้จัดเตรียมข้อเสนอที่ปรับใหม่กลับไปให้สหรัฐฯ ก่อนวันที่ 9 ก.ค.นี้ ซึ่งเราหวังว่าสหรัฐฯ จะนำไปพิจารณาจัดทำอัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย”

สำหรับการคาดการณ์เหตุการณ์หลังวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายของทางสหรัฐฯ นั้น ตนเชื่อว่าการทำงานจะยังต้องคุยกันต่อเนื่อง เพื่อได้ออกมาเป็นตัวสัญญาฉบับสุดท้าย และในหลายๆประเทศเองก็มีกระบวนการที่จะต้องอนุมัติกันภายในต่อเนื่อง ซึ่งหวังว่าในช่วงนั้นจะได้อัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยต่อเนื่องจนกว่าการเจรจาลงรายละเอียดจะแล้วเสร็จ แน่นอนว่า อัตราภาษีที่เราคาดหวัง คือต้องต่ำที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยยังคงแข่งขันได้