“สรวงศ์” รับสภาพ “แอปเที่ยวไทยคนละครึ่งล่ม” แย้มอาจเพิ่มสิทธิ์

วันนี้ (1 กรกฎาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งได้เริ่มเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันนี้เป็นวันแรก ตั้งแต่ช่วงเวลา 8.00 น. แต่ ปรากฎว่า ระบบการลงทะเบียนและแอปพลิเคชันเกิดขัดข้องใช้งานไม่ได้ ว่า ในเรื่องของแอปฯล่ม ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังแก้ไขอยู่โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด 

ทั้งนี้ยอมรับว่า เมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งในช่วงเช้ามีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องของระบบการลงทะเบียน แม้จะได้เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค โดยจะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด

นายสรวงศ์ เชื่อว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่  ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิ์แล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิ์ตรงนี้ให้ต่อไป

ขณะที่ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งว่า โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจองสิทธิ์ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป จนขณะนี้มีประชาชนเข้าสู่การลงทะเบียนทั้งผ่านเว็บไซต์และผ่านแอพพลิเคชั่นที่ได้แจ้งไว้จำนวนมาก จึงอาจทำให้ระบบล่าช้าในการประมวลผล 

ทั้งนี้ประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนต่อเนื่องได้อย่างไม่จำกัด เพราะจะเป็นลักษณะการจองสิทธิ์ เมื่อจองแล้วใครใช้สิทธิ์ก่อนชำระเงินก่อนจะได้รับสิทธิ์นั้น โดยล่าสุดข้อมูล ณ ปัจจุบันของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 สรุปได้ดังนี้

1. การลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ไม่จำกัดจำนวนคน แต่ละคนรับสิทธิ์ได้ สูงสุดไม่เกิน 5 สิทธิ์

2. การใช้สิทธิ์ จำนวน 500,000 สิทธิ์ นั้น เป็นระบบ first come first serve 

ทั้งนี้ การใช้สิทธิ์จะสมบูรณ์ครบถ้วน ต่อเมื่อมีการชำระเงินโดยตรงกับทางโรงแรมครบถ้วนเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

ต่อมาภายหลังการประชุมครม. นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวย้ำถึงปัญหาการลงทะเบียนใช้สิทธิ์โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ว่า ขณะนี้ระบบไทยไอดี ที่กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบอยู่ เกิดล่ม จึงแก้ไขด้วยวิธีทำบายพาส และจะพยายามแก้ไขให้เร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจว่า 500,000 สิทธิ์ ไม่ได้ปิดกั้นการลงทะเบียนที่ 500,000 คน แต่จะปล่อยไหลไปเรื่อยๆ และจะนับสิทธิ์ต่อเมื่อมีการจองและจ่ายเงินเกิดขึ้น ถ้าสิทธิ์ครบ 500,000 คนเร็ว ได้รับการตอบรับจากประชาชนดี นายกรัฐมนตรีก็อาจขยายวงเงินให้เพิ่มเติม