วันนี้ (26 มิถุนายน) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อประชุมหารือเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ห้องประชุมโรงเรียนอรัญประเทศ โดยมี พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.ท. อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 และปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เข้าร่วมประชุม
ผู้ว่าฯ สระแก้วได้รายงานสถานการณ์ชายแดนที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายและพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่ไทยได้ยกระดับมาตรการควบคุมการข้ามแดน โดยได้เสนอให้รัฐบาลทบทวนโควตานำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชา ซึ่งหลังจากการลดการนำเข้ามันสำปะหลัง ผลกระทบต่อเกษตรกรไทยกลับลดลงและทำให้ราคาขายสูงขึ้น
ผู้ว่าฯ สระแก้วยังรายงานถึงการขอพาสปอร์ตในช่วงหลังที่มีการขอเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากผู้ที่เดินทางผ่านสนามบินไปยังพนมเปญและเสียมราฐ ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังปอยเปต เพื่อทำงานหรือเล่นการพนันที่คาสิโน
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอเกี่ยวกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการเดินทางที่เคยเก็บจากชาวกัมพูชาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเสนอให้เก็บค่าธรรมเนียมตามเดิมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ สระแก้วได้เสนอให้ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนด และระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นในกรณีที่เป็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
พร้อมทั้งให้ทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน โดยมีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบทไปแล้วในพื้นที่
ด้านนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อเสนอต่างๆ ที่ได้รับจากผู้ว่าฯ นั้นเป็นข้อเสนอที่ตรงกับความเข้าใจและปัญหาจริง โดยยืนยันว่าจะทำงานเพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น และย้ำถึงการใช้สันติวิธีในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานงานระหว่างหน่วยงานและรัฐบาล เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอบคุณหน่วยงานที่ทำงานหนักในการดูแลประชาชน