เศรษฐกิจประเทศไทยยังคงอยู่สภาวะที่ชะลอตัว จากปัจจัยหลากหลายที่เข้ามารุมเร้าทั้งใน และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป้น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
,สงครามตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ,หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และล่าสุดกับปัจจัยทางการเมืองที่กำลังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล เป็นต้น
ทั้งนี้ การเปิด-ปิดโรงงานก็เปรียบเสมือนดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจได้อีกด้านหนึ่ง เพราะอัตราการขยายตัวของจีดีพี (GDP) มีผลต่อการลงทุนเพิ่ม หรือขยาย และแม้กระทั่งทำให้ปิดกิจการได้
จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับข้อมูลการเปิด ขยาย และปิดกิจการในไทยของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 พบว่า
โรงงานที่ปิดกิจการไปแล้ว 258 แห่ง ประกอบด้วย
- ม.ค. จำนวน 42 แห่ง
- ก.พ. จำนวน 47 แห่ง
- มี.ค. จำนวน 51 แห่ง
- เม.ย. จำนวน 82 แห่ง
- พ.ค. จำนวน 63 แห่ง
โรงงานเปิดกิจการ
- ม.ค. จำนวน 147 แห่ง
- ก.พ. จำนวน 144 แห่ง
- มี.ค. จำนวน 94 แห่ง
- เม.ย. จำนวน 117 แห่ง
- พ.ค. จำนวน 99 แห่ง
โรงงานขยายกิจการ
- ม.ค. จำนวน 14 แห่ง
- ก.พ. จำนวน 22 แห่ง
- มี.ค. จำนวน 22 แห่ง
- เม.ย. จำนวน 12 แห่ง
- พ.ค. จำนวน 14 แห่ง
มูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดของโรงงานที่ปิดกิจการมีมูลค่า 8,283.26 ล้านบาท แบ่งเป็น
- ม.ค. มูลค่า 1,302.74 ล้านบาท
- ก.พ. มูลค่า 1,485.60 ล้านบาท
- มี.ค. มูลค่า 902.19 ล้านบาท
- เม.ย. มูลค่า 3,549.16 ล้านบาท
- พ.ค. มูลค่า 1,043.57 ล้านบาท
มูลค่าเงินลงทุนโรงงานเปิดกิจการ
- ม.ค. มูลค่า 18,119.94 ล้านบาท
- ก.พ. มูลค่า 22,858.73 ล้านบาท
- มี.ค. มูลค่า 13,552.01 ล้านบาท
- เม.ย. มูลค่า 10,248.99 ล้านบาท
- พ.ค. มูลค่า 15,754.51 ล้านบาท
มูลค่าเงินลงทุนโรงงานขยายกิจการ
- ม.ค. มูลค่า 1,499.64 ล้านบาท
- ก.พ. มูลค่า 954.42 ล้านบาท
- มี.ค. มูลค่า 6042.53 ล้านบาท
- เม.ย. มูลค่า 2,374.45 ล้านบาท
- พ.ค. มูลค่า 1,778.24 ล้านบาท
เลิกจ้างงานทั้งหมด 8,883 คน ประกอบด้วย
- ม.ค. จำนวน 1,614 ราย
- ก.พ. จำนวน 1,293 ราย
- มี.ค. จำนวน 798 ราย
- เม.ย. จำนวน 1,655 ราย
- พ.ค. จำนวน 3,523 ราย
จ้างงานเพิ่มจากการเปิดกิจการ
- ม.ค. จำนวน 6,257 ราย
- ก.พ. จำนวน 5,083 ราย
- มี.ค. จำนวน 3,216 ราย
- เม.ย. จำนวน 3,419 ราย
- พ.ค. จำนวน 2,448 ราย
จ้างงานเพิ่มจากการขยายกิจการ
- ม.ค. จำนวน 531 ราย
- ก.พ. จำนวน 1,066 ราย
- มี.ค. จำนวน 935 ราย
- เม.ย. จำนวน 416 ราย
- พ.ค. จำนวน 946 ราย
สำหรับอุตสาหกรรมเปิดกิจการที่มีเงินลงทุนสูงสุด ได้แก่
- ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ มูลค่า 16,164.63 ล้านบาท
- ผลิตเครื่องจักรและเครื่องกล มูลค่า 7,919.45 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมอาหาร มูลค่า 7,222.65 ล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์โลหะ มูลค่า 4,575.81
- ผลิตภัณฑ์พลาสติก มูลค่า 3,788.23 ล้านบาท
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ขยายกิจการมีเงินลงทุนสูงสุด ประกอบด้วย
- อุตสาหกรรมอาหาร มูลค่า 6,910.36 ล้านบาท
- ผลิตยานพาหานะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อม มูลค่า 1,024.68 ล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์โลหะ มูลค่า 835.90 ล้านบาท
- การพิมพ์ การเย็บเล่ม ทหปกหรือการทำแม่พิมพ์ มูลค่า 562.37 ล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม มูลค่า 418.80 ล้านบาท
กลุ่มอุตสาหกรรมเลิกกิจการที่มีเงินงทุนสูงสุด ได้แก่
- เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี มูลค่า 1,344.95 ล้านบาท
- แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ มูลค่า 878.72 ล้านบาท
- ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อม มูลค่า 855.15 ล้านบาท
- ผลิตเครื่องจักรกลและเครื่องกล มูลค่า 773.70 ล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์โลหะ มูลค่า 591.13 ล้านบาท