ครม.คลอดแผนปูทางไทยพ้นบัญชีดำ ผนึก USTR คุมทรัพย์สินทางปัญญา

วันนี้ (27 พฤษภาคม 2568) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยร่างแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาฉบับนี้ เป็นการแสดงความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นของประเทศไทยในการแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 

ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับแคทเธอรีน ไท อดีตประธานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งได้ตอบรับว่าประเทศไทยมีความคืบหน้าที่ดีในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว สามารถดำเนินการได้ตามข้อกำหนดที่สหรัฐฯกำหนด และเตรียมที่จะถอดชื่อประเทศไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา แต่ระหว่างการดำเนินการนั้นเป็นช่วงที่ประธาน USTR คนเดิมหมดวาระก่อน 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบร่างแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาแล้วรัฐบาลไทยจะมีการส่งแผนงานไปทาง USTR เพื่อยืนยันถึงการตั้งใจทำงานเรื่องนี้ที่ไทยได้มีการทำงานร่วมกับสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่อง 

“ปัจจุบันการปราบปรามสินค้าลิขสิทธิ์ประเทศ ดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ห้างใหญ่กลาง กทม. สามารถจับกุมผู้ค้า และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ได้เป็นจำนวนมาก ส่วนความคืบหน้าเรื่องของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ขณะนี้คณะทำงานของไทยมีการทำงานอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้ความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้ ภายในระยะเวลาเส้นตายที่สหรัฐฯกำหนด” นายพิชัย ระบุ

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.ว่า ครม.เห็นชอบร่างแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับ USTR โดย USTR ได้จัดทำรายงานผลการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ โดยแบ่งสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้าออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1. ประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามากที่สุด 
2. ประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ 
3. ประเทศที่ต้องจับตามอง ซึ่งประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษมาโดยตลอด 

ขณะเดียวกันที่ประชุม ครม. ยังได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และการสมัครเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกเพื่อพัฒนาและรักษาระดับการคุ้มครองสิทธิของนักแสดงและผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงของประเทศสมาชิกให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปแบบเดียวกัน ประกอบด้วย 

สิทธิทางเศรษฐกิจของนักแสดง สิทธิทางศีลธรรมของนักแสดง สิทธิของผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียง สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนสำหรับการแพร่เสียงและการเผยแพร่ต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ ประเทศภาคีต้องกำหนดอายุการคุ้มครองสำหรับสิทธิของนักแสดงให้มีอายุอย่างน้อย 50 ปี นับแต่วันสิ้นปีที่ได้มีการบันทึกการแสดงไว้ในสิ่งบันทึกเสียง และต้องกำหนดอายุการคุ้มครองสำหรับผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงให้มีอายุอย่างน้อย 50 ปี นับแต่วันสิ้นปีที่ได้มีการโฆษณาสิ่งบันทึกเสียง หรือหากไม่มีการโฆษณาให้มีอายุอย่างน้อย 50 ปีนับแต่วันสิ้นปีที่ได้มีการบันทึกเสียง