ผ่า 13 วาระใหญ่ “แพทองธาร” ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน 27 พ.ค.นี้

25 พ.ค. 2568 | 22:52 น.

เปิด 13 วาระใหญ่ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 และประชุม IMT-GT ประเทศมาเลเซีย 25-27 พ.ค.นี้ ดันความร่วมมือหลายประเทศรับการเปลี่ยนแปลง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการออกเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26 - 27 พฤษภาคม 2568 นี้ ภายใต้แนวคิดหลัก “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง และความยั่งยืน” (Inclusivity and Sustainability)  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเตรียมเข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียน 7 รายการ และเข้าร่วมการประชุม IMT-GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle) ระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 ด้วย ซึ่งอยู่ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 โดยจะมีการรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับผู้นำ และกิจกรรมคู่ขนาน ได้แก่ การลงนามกรอบความร่วมมือด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ภายใต้แผนงาน IMT-GT 

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

 

สำหรับสาระสำคัญร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบพบว่า มีการกำหนดหัวข้อที่สำคัญ 13 เรื่อง ดังนี้

1. ยืนยันในความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579 (IMT-GT Vision 2036) ชื่นชมความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานระยะห้าปี พ.ศ. 2565 - 2569 (Implementation Blueprint 2022-2026: IB 2022-2026) และขอให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดเร่งยกระดับความร่วมมือเพื่อให้บรรลุ “วัตถุประสงค์ภายใต้กรอบเวลาที่เหลืออยู่

2. ตระหนักถึงความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลต่ออนุภูมิภาค อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้า โดยขอยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วม ความร่วมมือ และการบูรณาการ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนและคว้าโอกาสทางการค้าใหม่

3. ยินดีกับความเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของมูลค่าการค้าและการลงทุนรวมในอนุภูมิภาค ซึ่งสูงกว่ามูลค่าในช่วงก่อนการแพร่ระบาด โดยสะท้อนถึงความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคและยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านความร่วมมือของแผนงาน IMT-GT

4. ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อสภาพแวดล้อมในอนุภูมิภาค โดยขอให้คณะทำงานสาขาการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรเร่งส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและครอบคลุม แนวทางเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจสีน้ำเงิน และเศรษฐกิจหมุนเวียน

พร้อมทั้งส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ เน้นย้ำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลิตภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่มูลค่าของอุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ ยังร่วมยินดีกับการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านน้ำมันปาล์มภายใต้แผนงาน IMT-GT

5. ตระหนักถึงศักยภาพของตลาดฮาลาล โดยชื่นชมความพยายามในการดำเนินการสร้างความสอดคล้องด้านการรับรองมาตรฐานฮาลาลและพัฒนาความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมฮาลาล และสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาสภาพแวดล้อมฮาลาลเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน

โดยขอให้คณะทำงานสาขาผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลสนับสนุนให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขยายบทบาทในการส่งออกสินค้าฮาลาล และเน้นย้ำการเพิ่มนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลเพื่อผลักดันผลลัพธ์บทบาทบริการฮาลาลของอนุภูมิภาคสู่ตลาดโลก

6. ยินดีกับผลการดำเนินโครงการปีแห่งการท่องเที่ยว IMT-GT พ.ศ. 2566-2568 ที่ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นสูงกว่าในช่วงก่อนการแพร่ระบาด โดยสนับสนุนให้คณะทำงานสาขาการท่องเที่ยวผลักดันการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน พัฒนาแพ็คเกจการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ และสนับสนุนความร่วมมือข้ามสาขาเพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวข้ามพรมแดนที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ

7. ตระหนักถึงความสำคัญของความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ ชื่นชมความคืบหน้าของโครงการเชื่อมต่อทางกายภาพ (Physical Connectivity Projects: PCPs) ที่เชื่อมโยงการขนส่งหลายรูปแบบ

โดยขอให้ผู้มีส่วนได้เสียเร่งรัดการพัฒนาโครงการเพื่อเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 6 และสนับสนุนให้คณะทำงานสาขาการเชื่อมโยงด้านการขนส่งเร่งดำเนินการตามกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน (AFAFIST) และการให้สัตยาบันในกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งผู้โดยสารทางบกข้ามแดน (ASEAN CBTP)

8. เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับเครือข่ายด้านการค้าและการผลิตแบบบูรณาการในอนุภูมิภาค ยินดีกับการลงนามในกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันโรค (FoC in CIQ) โดยสนับสนุนให้คณะทำงานสาขาการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียในการเร่งรัดการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือด้านเมืองยางพาราและอุตสาหกรรมยางของแผนงาน IMT-GT เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานยางพาราที่เข้มแข็งและยั่งยืน

9. ตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมดิจิทัลในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอนุภูมิภาค โดยสนับสนุนให้คณะทำงานสาขาการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลอำนวยความสะดวกให้วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย นำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายการค้าข้ามพรมแดน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

10. เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำให้อนุภูมิภาค IMT-GT เป็นแม่แบบระดับโลกด้านการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยชื่นชมการทำงานของคณะทำงานสาขาสิ่งแวดล้อมในการผลักดันข้อริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินการร่วมกันภายใต้กรอบการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน (Sustainable Urban Development Framework: SUDF)

11. ชื่นชมความคืบหน้าในการพัฒนาและสร้างความสอดคล้องของมาตรฐานด้านทักษะเฉพาะทางและด้านความเชี่ยวชาญของแรงงานในอนุภูมิภาค โดยสนับสนุนให้คณะทำงานสาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา และวัฒนธรรม ส่งเสริมความสอดคล้องระหว่างทักษะแรงงานกับแนวทางการเปลี่ยนแปลงของความต้องการภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และเร่งรัดการพัฒนาระบบข้อมูลตลาดแรงงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้การเคลื่อนย้ายแรงงานภายในภูมิภาค

12. ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของเครือข่ายมหาวิทยาลัย สภาสีเขียว และสภาธุรกิจ IMT-GT รวมถึงส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับคณะทำงานต่าง ๆ รัฐบาลระดับชาติ รัฐบาลท้องถิ่น และภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินโครงการระดับอนุภูมิภาค

13. ต้อนรับความร่วมมือกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ อาทิ สาธารณรัฐอินเดีย โดยเฉพาะความร่วมมือภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่าง IMT-GT กับอินเดีย UNESCAP ในการดำเนินโครงการนำร่องการอำนวยความสะดวกข้ามพรมแดน ภายใต้แผนงาน IMT-GT สำนักเลขาธิการอาเซียน

ที่สนับสนุนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับความตกลงของอาเซียน และธนาคารพัฒนาเอเชียที่ให้การสนับสนุนความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคและอำนวยความสะดวกในการหารือในประเด็นความท้าทายในปัจจุบัน อาทิ การส่งเสริมเมืองสีเขียวและเศรษฐกิจสีน้ำเงิน