ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ที่ไหน รายเก่า - ใหม่ ได้เงิน

20 พ.ค. 2568 | 21:40 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2568 | 12:11 น.

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ที่ไหน หลัง กระทรวงการคลัง ยังคงเดินหน้าโอนเงินให้ รายเก่า จำนวน 14. 5 ล้านราย รายใหม่ 10 ล้านราย รอเคาะวันลงทะเบียน

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ที่ไหน แม้มติคณะกรรมการนโยบาย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568  เห็นชอบในการทบทวนค่าใช้จ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2568 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ต่อมา  ครม.เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องเศรษฐกิจปัจจุบัน

แม้รัฐบาลจะชะลอโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ออกไปก่อน แต่สำหรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รายเก่า 14.5 ล้านราย กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม

ส่วนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ โดยเตรียมที่จะประกาศรายละเอียดการลงทะเบียนให้ประชาชนได้รับทราบในเร็วๆ นี้ หลังจากที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ได้เห็นชอบและสรุปเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการแห่งรัฐชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

สำหรับผู้ได้รับสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น กระทรวงการคลัง  กำหนดผู้ได้สิทธิลงทะเบียนเบื้องต้น 10 ล้านคน ดังนี้

  •  ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว
  • มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
  • ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
  • ต้องไม่มีบัตรเครดิต
  • ต้องไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
  • ต้องไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถไม่เกิน 1 ล้านบาทขึ้นไป
  • ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง ส.ส.และ ส.ว.

 

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ผ่าน 2 ช่องทางดังนี้

กรณีรายเดิม

  • ไม่ต้องลงทะเบียน

กรณีรายใหม่

แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

  • ไม่มีครอบครัว /คนโสด  ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
  • กลุ่มมีครอบครัว ลงทะเบียนผ่านหน่วยรับลงทะเบียนเท่านั้น

  วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2568

ช่องทางที่ 1 : ลงทะเบียนด้วยตนเอง

  • ผ่านเว็บไซต์ (ไม่มีครอบครัว / คนโสด)
  • ทางรัฐ.com
  • ThaID

ช่องทางที่ 2 : ลงทะเบียนผ่านหน่วยงาน

  • หน่วยงานรับลงทะเบียน
  • ยื่นแบบฟอร์มลงกะเบียนฯ พร้อมเอกสารหลักฐาน
  •  การให้ความยินยอม (Consent)
  • ยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ (ทำ e-KYC) เตรียมพร้อมล่วงหน้าหากเป็นผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ

ส่งตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล (ตนเอง / คู่สมรส / บุตร)

  • PASSED ข้อมูลการลงทะเบียน ครบถ้วนสมบูรณ์
  • FAILED ข้อมูลการลงทะเบียน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยื่นขอแก้ไขข้อมูล
  • PASSED  ข้อมูลการลงทะเบียน ครบถ้วนสมบูรณ์
  • FAILED  ข้อมูลการลงทะเบียน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
  • ยื่นขอแก้ไขข้อมูล

ส่งตรวจสอบคุณสมบัติ (เกณฑ์คุณสมบัติ)

  • PASSED ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ
  • FAILED ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ยื่นมอุทธรณ์
  • PASSED ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ
  • FAILED ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ยื่นขออุทธรณ์
  • รับสิทธิต่อเนื่อง ระงับสิทธิ  ได้รับสิทธิ ไม่ได้รับสิทธิ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้จ่ายอะไรบ้าง

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน 

•     วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน 2568 ) วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

ค่าไฟฟ้า

•     ค่าไฟฟ้า (ใช้ฟรี) หากใช้ไม่เกิน  315 บาท/ครัวเรือน/เดือน

ค่าน้ำประปา

•     ส่วนลดค่าน้ำประปา จำนวน 100บาท/ครัวเรือน/เดือน

 

ทุกวันที่  20 ของเดือน

•     เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน จำนวน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท.

ที่มา: