“บางกอกเคเบิ้ล” ลงทุนเพิ่ม 100 ล้าน ดันรายได้ปี 68 แตะ 1.9 หมื่นล้าน

19 พ.ค. 2568 | 09:22 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2568 | 09:22 น.

บางกอกเคเบิ้ลมีแผนลงทุนเพิ่ม 100 ล้านบาท หวังดันเป้ารายได้ปี 68 แตะ 1.9 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 20-30% จากปีที่ผ่านมา

นายพงศภัค นครศรี ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เปิดเผยว่า  ปี 68 บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้อยู่ที่ 19,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20-30% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 16,600 ล้านบาท 

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจไทยจะประสบภาวะชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็เผชิญความผันผวนจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทจะมุ่งตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ และเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผ่านการลงทุนเพิ่มปีนี้ 100 ล้านบาท

ปัจจุบัน บางกอกเคเบิ้ล มีพนักงานกว่า 1,250 คน มีโรงงานผลิตสายไฟทั้งสิ้น 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสมุทรปราการ โรงงานฉะเชิงเทรา และOperation and Innovation Center ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทรา รวมพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทราทั้งหมดกว่า 251 ไร่ มีกำลังการผลิตสายไฟกว่า 60,000 ตันต่อปี ครอบคลุมผลิตภัณฑ์มากกว่า 80 ชนิด รวมถึงมีโซลูชั่นปรับแต่งเฉพาะตามความต้องการ ถือเป็นพอร์ตฟอลิโอที่กว้างที่สุดในประเทศไทย รองรับความต้องการทุกกลุ่มลูกค้าถึง 7 กลุ่มการใช้งาน

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2565 หรือช่วงปลายเหตุการณ์ COVID-19 กำลังการผลิตรวมของบริษัทเติบโตขึ้นมากกว่า 30% ต่อปี โดยเป็นผู้ผลิตสายไฟที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศ ซึ่งในปี 2567 บริษัทส่งมอบสายไฟไปกว่า 50,000 ตัน หรือคิดเป็นความยาวสายไฟรวมกว่า 400,000 กิโลเมตร

“บางกอกเคเบิ้ล” ลงทุนเพิ่ม 100 ล้าน ดันรายได้ปี 68 แตะ 1.9 หมื่นล้าน

สำหรับโรงงานที่ฉะเชิงเทรานั้น ถือเป็นโรงงานผลิตหลักที่มีกระบวนการผลิตครอบคลุมทุกขั้นตอน มีคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

นายพงศภัค กล่าวอีกว่า บริษัทได้จัดตั้ง ห้องปฏิบัติการสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ (Extra High Voltage Lab) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทดสอบสายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ 230 kV ซึ่งเป็นสายไฟที่ใช้กับโครงสร้างพื้นฐานและเมกะโปรเจกต์ต่างๆ

“ห้องปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจำลองการใช้งานไฟฟ้าระดับ 700 kV และกระแสสูงถึง 6,000 A ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าสายไฟที่ผลิตมีความปลอดภัยตามมาตรฐานวิศวกรรม โดยถือเป็นผู้ผลิตไทยแห่งเดียวของประเทศที่มีห้องปฎิบัติการทดสอบ อีกทั้งยังคงผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในกระบวนการทำงานภายในโรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนโรงงานของสู่ Smart Factory 4.0”

นอกจากนี้ บริษัทยังใส่ใจเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดด้วยการก่อตั้ง บริษัท บางกอก โซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด บริษัทในเครือ เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดของประเทศ โดยได้ดำเนินการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของประเทศไทย ภายในพื้นที่โรงงานฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2549 

“บางกอกเคเบิ้ล” ลงทุนเพิ่ม 100 ล้าน ดันรายได้ปี 68 แตะ 1.9 หมื่นล้าน

และปัจจุบันได้ขยายการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ภายในพื้นที่โรงงานจนมีปริมาณโซลาร์ที่ครอบคลุมกว่า 50% ของกำลังการผลิตของทั้ง 3 โรงงาน

ปัจจุบัน บางกอกเคเบิ้ล มีสายไฟครอบคลุมทั้งสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ สายไฟฟ้าแรงดันปานกลาง สายไฟฟ้าแรงดันสูง สายไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษ สายเปลือย สายโซลาร์เซลล์ สายคอนโทรลและสายสัญญาณ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์สายทนไฟ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งานที่เน้นความปลอดภัยและรองรับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล