“เฉลิมชัย” ตรวจเยี่ยม “สวนสัตว์แห่งใหม่” ชูแนวคิด Biodiversity Park พร้อมเปิดเฟสแรก ปี 69
“ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.ทส. ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ หลังทุ่มงบกว่า 1 หมื่นล้าน เนรมิตทุ่งน้ำรังสิต จ.ปทุมธานี เป็น"สวนสัตว์แห่งอนาคต" ภายใต้แนวคิด “Biodiversity Park” อนุรักษ์สัตว์ป่า ส่งเสริมระบบนิเวศ คาดเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2569 ก่อนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2572
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ ณ ทุ่งน้ำรังสิต คลอง 6 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
โดยได้รับการต้อนรับจาก รศ.ดร.เจษฎ์ โหณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมผู้บริหาร พนักงาน ให้การต้อนรับ
ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า สวนสัตว์แห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาในฐานะ "สวนสัตว์แห่งอนาคต" ภายใต้แนวคิด “Biodiversity Park” โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์สัตว์ป่าและส่งเสริมการเรียนรู้ระบบนิเวศผ่านการจำลองถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์แต่ละชนิดให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทั้งยังสร้างสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตสัตว์กับประสบการณ์ของผู้เข้าชม
การออกแบบสวนสัตว์ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงในภาคกลาง โดยใช้น้ำและภูมิทัศน์ธรรมชาติเข้ามาปรับใช้ เพื่อสร้างพื้นที่จัดแสดงสัตว์แบบเปิดโล่งที่ไม่มีสิ่งกั้นสายตา เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสสัตว์อย่างใกล้ชิด ราวกับเข้าไปอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์เอง
สวนสัตว์ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ โดยใช้แนวกั้นธรรมชาติ เช่น คูน้ำ หรือระดับพื้นที่ที่ต่างกัน เพื่อป้องกันสัตว์ข้ามเขตกันอย่างปลอดภัย โดยไม่ทำลายบรรยากาศหรือประสบการณ์ของผู้เข้าชมสวนสัตว์แห่งใหม่นี้จึงไม่ใช่แค่สถานที่ชมสัตว์ แต่เป็น “พื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่มีชีวิต” เชื่อมโยงคน สัตว์ และธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เป็นห้องเรียนสิ่งแวดล้อมระดับสากลที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ในด้านการบริหารจัดการ โครงการติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมระบบจองและจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า รวมถึงระบบบริหารจัดการภายในสวนสัตว์ พร้อมศูนย์ข้อมูลที่ดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทั้งหมด
โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ได้รับอนุมัติวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 10,975 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นระยะที่ 1 จำนวน 5,545 ล้านบาท และระยะที่ 2 จำนวน 5,430 ล้านบาท : การก่อสร้างระยะที่ 1 เริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มในปี 2569 และคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมเต็มรูปแบบได้ในปี 2572
ดร.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าในการดำเนินงานก่อสร้าง ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีการเสนอของบประมาณสำหรับเฟสที่ 2 จำนวนกว่า 4,340 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการต่อไปในปีงบประมาณ 2569 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการตรวจสอบเนื้องานก่อสร้างและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากรายงานที่ได้รับฟังจากผู้รักษาการผู้อำนวยการสวนสัตว์ และประธานบอร์ด พบว่าการก่อสร้างดำเนินไปอย่างเต็มที่และเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ แม้จะมีอุปสรรคในบางขั้นตอน เช่น ปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำที่ต้องมีการปรับปรุงฐานรากให้เหมาะสมในช่วงแรก แต่ขณะนี้ทีมงานได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้ตามแผนที่วางไว้
ในส่วนของงบประมาณ การเบิกจ่ายก็มีการเร่งรัดให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ และกำลังรอการพิจารณางบประมาณเพิ่มเติมในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะมีวงเงินประมาณ 4,340 ล้านบาท เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด
คาดว่าในปี 2569 จะสามารถดำเนินการเปิดให้บริการเฟสแรกแก่ประชาชนได้บางส่วน และโครงการทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ตามแผนในปี 2572 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีสวนสัตว์ที่ทันสมัยและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้
“สวนสัตว์แห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้และพักผ่อนที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย พร้อมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศระดับสากลของไทย โครงการยังเน้นความเป็น “สวนสัตว์สีเขียว” (Green Zoo) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อชุมชน
เพื่อให้สวนสัตว์แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ประชาชนสามารถมาใช้พักผ่อนและออกกำลังกาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์ข้อมูลด้านการอนุรักษ์และวิจัยสัตว์ป่าทั้งในและนอกถิ่นอาศัย และในด้านการท่องเที่ยว สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนได้ด้วย” ดร. เฉลิมชัย กล่าว
ส่วนการนำสัตว์ชนิดต่าง ๆ เข้ามาในสวนสัตว์นั้น อยู่ในแผนงานของโครงการที่จะค่อย ๆ นำสัตว์แปลกใหม่เข้ามาเพิ่ม โดยปัจจุบันสัตว์บางส่วนถูกฝากไว้ตามสวนสัตว์อื่น ๆ เนื่องจากสัตว์เหล่านั้นเริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่นั่น อย่างไรก็ตาม สวนสัตว์แห่งใหม่จะพยายามจัดหาสัตว์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจของสวนสัตว์
นอกจากนี้ ยังมีสัตว์อื่น ๆ ที่น่ารักและน่าสนใจ เช่น ช้าง เป็นสัตว์ที่มีความฉลาดและผูกพันกับมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง มีความรู้เรื่องราวและรู้ภาษาพื้นฐานของคนเลี้ยง ช้างจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของสวนสัตว์และประเทศชาติ โดยยังมีสัตว์อีกมากมายที่ทางสวนสัตว์จะค่อย ๆ นำเสนอให้ประชาชนและเยาวชนได้เข้ามาชม เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความรักและความเข้าใจในสัตว์และธรรมชาติ และช่วยสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไปในอนาคต