นโยบายแจกเงินหมื่น ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) วงเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ให้กับเด็กไทย อายุตั้งแต่ 16-20 ปี ประมาณ 2.7 ล้านคน วงเงินงบประมาณ 27,000 ล้านบาท แม้จะผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ ณ ปัจจุบัน โครงการแจกเงินหมื่น ก็ยังไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้
ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังแถลงถึงความคืบหน้าการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 โดยระบุถึงการผลักดันโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ว่า จะขอทบทวนก่อน
“ตอนนี้ขอทบทวนก่อน” รองนายกฯ ตอบสั้น ๆ โดยผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การทบทวนนั้นจะครอบคลุมถึงการแจกเฟส 3 หรือไม่ รองนายกฯ ยังยืนยันคำเดิมสั้น ๆ ว่า “ขอไปทบทวนก่อน”
อย่างไรก็ตามในการผลักดันการแจกเงินหมื่น ผ่านโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 นั้น ที่ผ่านมามีความคลุมเคลือหลายอย่าง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า ยังไม่ได้เสนอเข้ามาในที่ประชุมครม. เพราะต้องขอเวียนความเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปก่อน
พร้อมกันนี้นายกฯ ยังให้เหตุผลสำคัญด้วยว่า ขณะนี้ยังต้องดูเรื่องของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีความคิดเห็นเข้ามา รัฐบาลก็ต้องรับฟัง โดยความตั้งใจเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการนี้ เชื่อว่ามีเป้าหมายสำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อมีปัจจัยแทรกเข้าม็ต้องดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไรก่อน
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงการคลัง ได้เสนอรายละเอียดโครงการตามที่ได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการรอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมครม.
อย่างไรก็ตามในการขับเคลื่อนโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 วงเงินคนละ 10,000 บาท นั้น ยังคงต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้งว่า ท้ายที่สุดแล้วจะชะลอการแจกเงินหรือไม่ แม้ว่ารัฐบาลจะกันเงินในโครงการนี้ไว้แล้วภายใต้งบประมาณปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท