วันแรงงาน 2568 คึกคัก คาดคนแห่ใช้จ่ายเงินสะพัด 2,185 ล้าน

29 เม.ย. 2568 | 08:28 น.
อัปเดตล่าสุด :29 เม.ย. 2568 | 09:00 น.

ม.หอการค้าไทย เปิดผลสำรวจวันแรงงาน ปี 68 คาดเงินสะพัด 2,185 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% ส่วนใหญ่ไปซื้อของ รองลงมาคือ กินข้าวนอกบ้าน และไปเที่ยว

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจแรงงานไทยทั่วประเทศ จำนวน 1,250 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 19-25 เมษายน 2568 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่า ในปี 2568 บรรยากาศวันแรงงานจะคึกคักมากกว่าปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายอยู่ที่ 2,185 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีมูลค่าการใช้จ่ายอยู่ที่ 2,117 ล้านบาท

 

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 

โดยกิจกรรมยอดนิยมในช่วงวันหยุดแรงงานในปี 2568 ส่วนใหญ่ไปซื้อของ 46.4% รับประทานอาหารนอกบ้าน 27.3% ใช้จ่ายเฉลี่ย 1,790.72 บาท เพิ่มขึ้น 62.9% ท่องเที่ยว 13.9% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 3,890.31 บาท เพิ่มขึ้น 63% 

ขณะที่การพักผ่อนอยู่บ้าน 31.9% ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดแรงงาน เฉลี่ย 2,890 บาทต่อราย  มูลค่าการใช้จ่ายในภาพรวมของปี 2568 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 29.9%

ทั้งนี้ จากตัวเลขมูลค่าการใช้จ่ายที่มากขึ้น 29.9% ประกอบกับปริมาณ จำนวนการซื้อที่เพิ่มขึ้น 32.2% แสดงให้เห็นว่าคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานดีขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงวันหยุดพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม ต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ ทำให้มีเวลาสำหรับการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายมากขึ้น

 

วันแรงงาน 2568 คึกคัก คาดคนแห่ใช้จ่ายเงินสะพัด 2,185 ล้าน

 

“ปีนี้วันแรงงานคึกคัก คาดว่าจะมีเงินสะพัด 2,185 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% เทียบกับปีที่แล้วที่ขยายตัว 2.4% แรงงานมีการผ่อนคลายทางการเงิน มีวันหยุดที่มากขึ้น”

สำหรับสถานการณ์ของแรงงานไทยในปีนี้ เริ่มดีขึ้นจากพฤติกรรมที่มีเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน 38.6% มีการใช้จ่ายเท่ากับรายได้ที่รับถึง 52.1% และใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ที่รับ 25.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแรงงานมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยสอดคล้องกับการชำระหนี้ต่อเดือนในปี 2568 ลดลงจากปีก่อนที่ 9,295.56 บาท เหลือ 8,407.55 บาท

 

วันแรงงาน 2568 คึกคัก คาดคนแห่ใช้จ่ายเงินสะพัด 2,185 ล้าน

 

ขณะเดียวกันรัฐบาลมีมาตรการแปลงหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ระบบมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบาลเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำให้กลุ่มตัวอย่างนำเงินส่วนดังกล่าวไปชำระหนี้ รวมถึงมาตรการคุณสู้ เราช่วยจะมีส่วนในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสถานภาพแรงงานที่ดีขึ้น