คลังเตรียมกู้แบงก์นอก 1.6 หมื่นล้าน ลุยมอเตอร์เวย์-สนามบินอู่ตะเภา

23 เม.ย. 2568 | 01:10 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2568 | 01:25 น.

กระทรวงการคลัง เตรียมกู้เงินแบงก์ AIIB - ADB วงเงิน 1.6 หมื่นล้าน ลุย 2 โปรเจกต์ใหญ่ รันเวย์ 2 สนามบินอู่ตะเภา ส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์ ล่าสุดครม.เห็นชอบรายละเอียดแล้ว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ 2 แห่ง วงเงินรวม 16,331 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (ก่อสร้างทางวิ่งและทางขับขี่ 2) และโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา

สำหรับแหล่งเงินแรกที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลไทยจากธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrasture Invesment Bank : AIIB) วงเงิน 423.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 13,891 ล้านบาท พร้อมเห็นชอบร่างสัญญาเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (ก่อสร้างทางวิ่งและทางขับขี่ 2) 

พร้อมทั้งมอบหมายให้กองทัพเรือ (ทร.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่ถูกระบุไว้ในคู่มือการปฏิบัติงาน สัญญาเงินกู้ กฎข้อบังคับต่าง ๆ ของ AIIB และเอกสารแนบท้ายสัญญาที่เกี่ยวข้องของโครงการฯ ตามข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) รวมทั้งข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และขอให้ ทร. คำนึงถึงผลกระทบการระงับวงเงินกู้หรือสิทธิในการเรียกให้ชำระคืนเงินกู้ได้ทันทีตามเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ของ AIIB หากจะมีการแก้ไขสัญญาการใช้ประโยชน์ในพื้นที่

ส่วนแหล่งเงินอีกแห่ง ครม.ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง กู้เงินในนามรัฐบาลไทยจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) สำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหลวงหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา กรอบวงเงิน 68.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,440 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีเสนอความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการกู้เงินครั้งนี้ โดยเสนอว่าให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หารือร่วมกับสำนักงบประมาณ ทร. และสกพอ. พิจารณาแผนการกู้เงินและเบิกจ่ายเงินกู้โครงการฯ ให้สอดคล้องกับแผนการเปิดให้บริการของสนามบินอู่ตะเภาที่มีความล่าช้าไปจากเป้าหมายเดิมมาก เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอความเห็นว่า การกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งในด้านความเพียงพอต่อการชำระค่าใช้จ่ายในสกุลเงินบาท รวมถึงการใช้คืนเงินกู้ในอนาคต กระทรวงการคลัง จึงควรพิจารณาบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวด้วย