จากกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเป็นอาคารแห่งเดียวในประเทศไทยที่พังทลายลงมา และได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามถึงมาตรฐานในการก่อสร้าง ทั้งเรื่องของการอกแบบ และวัสดุที่ใช้
ทั้งนี้ ภายหลังจากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการเข้าเก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างมาตรวจสอบคุณภาพ ที่สถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือไม่ โดยใช้เวลาการตรวจสอบเหล็กทุกท่อนมากกว่า 4 ชั่วโมงกว่า
โดยเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 ไซส์ มาจากบริษัทเดียวกัน ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กแห่งหนึ่ง ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้สั่งปิดไปในช่วงเดือนธ.ค. 67 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
ซึ่งเหล็กที่ถูกนำมาตรวจสอบมาจาก 3 บริษัท คือ SKY (บริษัทซินเคอหยวน ซึ่งเป็นผู้ผลิตจากจีน) TATA (บริษัท ทาทา สตีล ผู้ผลิตจากอินเดีย) และ TYS ( เครือบริษัทไทยคูณ ผู้ผลิตจากจีนร่วมทุนกับไทย)
หลังจากนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ภายหลังผลตรวจสอบคุณภาพเหล็กข้ออ้อยขนาด 20 และ 32 มิลลิเมตร ที่เก็บตัวอย่างมาจากตึก สตง. ถล่ม ไม่เป็นไปตาม มอก.
ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้สั่งปิดโรงงานของบริษัทฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 เนื่องจากบริษัทฯ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายโรงงานในหลายประเด็น อีกทั้ง ยังมีการผลิตเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. อาจส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
กระทรวงฯ จึงได้ทำการยึดอายัดเหล็กทั้งหมดไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 จำนวน 2,441 ตัน มูลค่ากว่า 49.2 ล้านบาท พร้อมเรียกคืนเหล็กจากท้องตลาดที่ผลิตจากบริษัทฯ คืนทั้งหมด และได้ดำเนินคดีกับบริษัทฯ อย่างถึงที่สุด
การลงพื้นที่ดังกล่าวมีตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ร่วมตรวจสอบในประเด็น ดังนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการลักลอบจัดเก็บฝุ่นแดงซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ไว้ภายในบริเวณโรงงานเป็นจำนวนมากกว่า 43,000 ตัน โดยที่บริษัทฯ แจ้งการกักเก็บฝุ่นแดงที่เกิดจากเตาหลอมเหล็กก่อนถูกสั่งปิด เพียงปีละ 2,245 ตันเท่านั้น อีกทั้งในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการแจ้งหรือรายงานการกักเก็บฝุ่นแดงแต่อย่างใด
กรณีดังกล่าวนี้กระทรวงฯ จึงได้สั่งการให้บริษัทฯ ชี้แจงภายใน 7 วัน หากมีการแจ้งข้อมูลเท็จจะต้องโดนโทษนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ หากพบว่ามีการจัดการกับฝุ่นแดงดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและกฎหมาย มีการปนเปื้อนโลหะหนัก จะถูกเพิ่มข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดต่อไป
นอกจากนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้ลงนามในหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน (BOI) บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เนื่องจากพบว่าบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
โดยที่หนังสือแจ้งเตือนให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ครั้งแรกในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และครั้งที่สอง ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ยังมีผล เนื่องจากยังไม่มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด
โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้มีหนังสือแจ้งไปถึงกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เกี่ยวกับผลการตรวจติดตามระบบการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ มีเนื้อหาสรุปได้ว่า
ตามที่ สมอ. ได้ตรวจประเมินระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ ภายหลังการอนุญาต ณ โรงงาน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ปรากฏว่า ผลการตรวจสอบไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การตรวจสอบเพื่อการอนุญาต (ภาคผนวก ก) จึงมีหนังสือแจ้งเตือนก่อนสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา 40
ต่อมาบริษัทได้มีหนังสือนำส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานการพิจารณาการแก้ไขข้อบกพร่อง และสมอ. ได้เข้าตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพร่องของการตรวจประเมินระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ ณ โรงงานอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 นั้น
สำนักงานฯ ขอแจ้งผลการตรวจระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัทซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด และขอยกเลิกหนังสือ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่เตือนก่อนสั่งพักใบอนุญาตตามมาตรา 40 กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการออกใบอนุญาต จึงเรียนมาเพื่อทราบ
อย่างไรก็ตาม นายเฉิน เจี้ยนฉี และ นายสมพัน ปันแก้ว กรรมการบริษัทซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ระบุว่า ได้มีการเตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวในวันพุธ ที่ 9 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานครเกี่ยวกับคุณภาพเหล็กเส้นของบริษัทที่ใช้ในการก่อสร้าง อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ถล่มลงมา หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568
แต่สุดท้ายซิน เคอ หยวน ก็ขอเลื่อนการแถลงข่าวออกไป โดยให้เหตุผลว่าจะขอรับฟังการแถลงข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมก่อน ซึ่งเตรียมแถลงข่าวข้อเท็จจริงสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง เพื่อเคลียร์ชัดในข้อมูลหลายๆมุมอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีปัญหา และผลการดำเนินการก่อนหน้า ตั้งแต่ ธค. 67 ในวันที่ 10 เม.ย. 68 เพื่อจะได้ทราบนโยบายและความโดยละเอียด
ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ย. 68) ซิน เคอ หยวน เตรียมที่จะแถลงข่าวอีกครั้ง หลังจากที่เลื่อนมาจากครั้งที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์เหมือนเดิม
ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 68) ได้มีการออกมายืนยันผลตรวจสอบเหล็ก และจะทดสอบตัวอย่างเหล็กเพิ่มเติมจากบริเวณตึก สตง. ถล่มที่เก็บมาเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 68 ทุกรายการตามมาตรฐาน มอก. 24-2559 วันนี้เช่นเดียวกัน
บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร “ฐานเศรษฐกิจ” จะติดตามมานำเสนออย่างต่อเนื่อง