นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดี กรมสรรพากรเปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2567 ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย.68 มีการยื่นแบบมาแล้วทั้งหมด 11.12 ล้านแบบ โดยเป็นแบบที่มีการขอคืนภาษีจำนวน 4.37 ล้านแบบ หรือ 39% ซึ่งกรมสรรพากรได้ดำเนินการคืนภาษีเรียบร้อยแล้ว 83% ของแบบที่มีการขอคืนภาษี
สำหรับผู้เสียภาษีท่านใดที่ยื่นแบบแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคืนภาษี กรมสรรพากรอาจใช้เวลาในการพิจารณา เช่น ต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งกรมสรรพากรอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ
สำหรับการจัดเก็บรายได้เดือนมีนาคม 2568 กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีทั้งสิ้น 170,473 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 6,603 ล้านบาท คิดเป็น 4.0% และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรตามเอกสารงบประมาณ 1,088 ล้านบาท คิดเป็น 0.6%
ดังนั้นเมื่อรวมงวด 6 เดือนปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568) กรมสรรพากรจัดเก็บได้ 966,200 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 36,213 ล้านบาท คิดเป็น 3.9% และสูงกว่าประมาณการฯ 10,158 ล้านบาท คิดเป็น 1.1%
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ ในเดือนมีนาคมนั้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ (ภ.พ. 30) ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บ ภ.พ. 30 ได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 7.6%
ขณะเดียวกันกรมสรรพากรได้จัดทำข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (Advance Pricing Arrangement: APA) ระหว่างกรมสรรพากรไทยกับกรมสรรพากรต่างประเทศ ซึ่งช่วยอำนวยรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกรรมข้ามพรมแดนที่เป็นธรรมแก่ประเทศไทย