แพทองธาร กำชับครม. ทุกกระทรวงเร่งปรับตัว รับทรัมป์ขึ้นภาษี

08 เม.ย. 2568 | 04:57 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 05:00 น.

นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กำชับครม. รับมือทรัมป์ขึ้นภาษี ยืนยันรัฐบาลพร้อมเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุดหลังคณะทำงานเตรียมรับมือมากว่า 4 เดือน

วันนี้ (8 เมษายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมถึงเรื่องของกำแพงภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ผลกระทบจากการประกาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น มาตรการดังกล่าวถือเป็นการกำหนดกติกาการค้าโลกที่สร้างผลกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก  

ทั้งนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานมากตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2568 ก่อนการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม 2568 แล้ว โดยคณะทำงานได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี เป็นระยะ ๆ ในการศึกษาและหามาตรการต่าง ๆ ไว้เจรจา และเตรียมมาตรการที่จะลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามได้ขอให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งปรับตัวตามมาตรการใหม่นี้  โดยวันนี้เวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะกรรมการชุดดังกล่าว เข้ารายงานเรื่องนี้เป็นการเฉพาะกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องและจะมีการชี้แจงในรายละเอียดต่อไป 

“รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและดำเนินการมาตลอดกว่า 4 เดือน และจะดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยและพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นที่ตั้ง” นายกฯ กล่าว

ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหว ก่อให้เกิดตึกถล่มบริเวณเขตจตุจักร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 11 วัน การดำเนินการกู้ชีวิต และค้นหาผู้ประสบภัย ยังต้องดำเนินการต่อไปควบคู่กับการรื้อถอนซากตึกและการสืบสวนหาสาเหตุ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยคลี่คลายสถานการณ์บรรเทาทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว

โดยนายกฯ มีข้อสั่งการระบุว่า ในขั้นตอนต่อไป คือการเยียวยา การสืบหาต้นเหตุตึกถล่ม และการพัฒนาระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดตามที่ได้สั่งการไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อเช้าวันนี้ นายกฯ ได้เชิญคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมารายงานความคืบหน้าเพื่อหาผู้กระทำผิดและดำเนินการตามกฎหมาย และกำหนดมาตการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อไป 

ขณะที่เทศกาลสงกรานต์ 2568 ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีเทศกาลต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน นี้ เป็นต้นไปนั้น นายกฯ มีข้อสั่งการว่า ขอให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยในงานเทศกาล กิจกรรมต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ยังมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

ให้กระทรวงคมนาคม จัดการขนส่งมวลชน และการบริการขนส่งสาธารณะทุกระบบให้เพียงพอ และต้องมีความปลอดภัยโดยให้เน้นที่ผู้ขับขี่รถโดยสารและผู้ให้บริการต้องมีความพร้อมเพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัย   

นายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางที่มีการก่อสร้างต่าง ๆ ว่ามีความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชน เช่น บริเวณถนนพระราม 2 และอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยง
หน่วยงานความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ดูแลเส้นทางการจราจร ให้มีความคล่องตัว ให้มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน กวดขันการขับขี่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้มีจุดตรวจจับ การดื่มแอลกอฮอล์

กระทรวงสาธารณสุข ให้เตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วย ตลอดจน ผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 
กระทรวงศึกษาธิการ ขอความร่วมมือ และอาสาสมัครนักเรียนอาชีวะ ช่วยซ่อมแซม รถที่เสียระหว่างเดินทาง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ดูแลให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จัดเตรียมตำรวจท่องเที่ยว หรืออาสาสมัคร ในการให้บริการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง และรวดเร็ว

ทั้งนี้ นายกฯ ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์เข้มงวด “ดื่มไม่ขับ” และเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ต้องตั้งเป้าให้อุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บลดลง และขออวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกท่านเดินทางพักผ่อนและท่องเที่ยวให้สนุกปลอดภัย มีความสุขกับครอบครัว ในโอกาสสงกรานต์ปีใหม่ไทย