กระทรวงอุตฯรุกกวาดล้างโรงงานเถื่อน ลอบทิ้งกากพิษพื้นที่ชุมชน

07 เม.ย. 2568 | 05:24 น.
อัปเดตล่าสุด :07 เม.ย. 2568 | 05:24 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้ากวาดล้างโรงงานเถื่อน ลอบทิ้งกากพิษพื้นที่ชุมชน สั่งตรวจสอบทั้งการบริหารจัดการ การกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในการมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานตามโครงการตรวจโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงและมีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมทั้ง 76 จังหวัด ประจำปีงบประมาณ 68 ว่า ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งเป็นต้นเหตุของการสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชมและประชาชน ในบางพื้นที่มีการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (โรงงานเถื่อน) พบการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ชุมชน มีการครอบครองวัตถุอันตราย หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ จึงมีนโยบายให้ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จากทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้องทำงานเชิงรุก ด้วยการร่วมออกปฏิบัติการตรวจสถานประกอบการอย่างเข้มข้นหรือ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่ได้รับแจ้งร้องเรียนนจากประชาชนให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการบริหารจัดการ การกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ไม่ใช่เพียงตรวจสอบเพียงประเด็นที่ร้องเรียนมาเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยได้จัดฝึกอบรมกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการตรวจโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงและมีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งแบ่งการตรวจโรงงานเป็น 4 กลุ่ม รวม 56,886 โรงงาน จัดลำดับตามประเภทโรงงานที่เสี่ยงจะเกิดผลกระทบกับประชาชน 

กระทรวงอุตฯรุกกวาดล้างโรงงานเถื่อน ลอบทิ้งกากพิษพื้นที่ชุมชน

อย่างไรก็ดี กระทรวงอุตสาหกรรม มีการปรับแนวทางการกำกับดูแล ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ผ่านมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการลงโทษและดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่กรทำความผิด ฝ่าฝืนกฎหมายตามแนวทางการตรวจสอบโรงงานแบบสุดซอย ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับมาตรฐานการตรวจสอบและช่วยในการปฏิบัติงานของบุคลากร เช่น 

ระบบทะเบียนลูกค้ากระทรวงอุตสาหกรรม i-Industry, ระบบรายงานข้อมูลกลางกระทรวงอุตสาหกรรม i-Singleform, ระบบการกำกับโรงงาน i-Auditor รวมถึงแพลตฟอร์มแจ้งอุตที่ประชาชนสามารถร้องเรียนทุกปัญหาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมได้โดยตรง 

รวมถึงมีการกำหนดพื้นที่นำร่องสมุทรสาครโมเดลที่มียกระดับมาตรการตรวจกำกับโรงงานตั้งแต่ต้นทางกระบวนการอนุญาตในโรงงานกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานหล่อหลอมโลหะ โรงงานคัดแยกหรือรีไซเคิลวัสดุไม่ใช้แล้ว เป็นต้น 

หลังจากที่พบขบวนการเครือข่ายใหญ่ลักลอบนำเข้าวัตถุอันตรายและพบโรงงานเถื่อนในพื้นที่ดังกล่าวหลายแห่ง ซึ่งได้มีการดำเนินคดีทางกฎหมายและผนึกกำลังร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อยกระดับการกำกับดูแลโรงงานและปราบปรามผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะขบวนการลักลอบขนขยะอันตรายเข้าประเทศ