คลังชี้เสาหลักเศรษฐกิจแกร่ง มองแผ่นดินไหว เหตุการณ์ระยะสั้น

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าระบบเสาหลักทางเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการเงินและการคลังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยทุกภาคส่วนจะต้องให้ความช่วยเหลือสิ่งที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าก่อน และในเรื่องเศรษฐกิจนั้น อยากให้มีความเชื่อมั่น ระบบของเรามีความเข้มแข็ง สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามปกติ

“ระหว่างนี้เราจะสร้างความเชื่อมั่น ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุด และขอความร่วมมือในเรื่องข่าวลือที่ไม่ค่อยดีออกมาเยอะ ขอประชาสัมพันธ์ว่าเรายังมีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว”

นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ เพื่อให้จีดีพีแตะ 3% ยังเดินหน้าต่อ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารกรุงไทย ผ่านการพักชำระหนี้ และมาตรการสินเชื่อผ่อนปรน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และกรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์ผ่อนปรน สำหรับการซ่อมแซมส่วนราชการที่ได้รับความเสียหาย สามารถดำเนินการจ้างแบบเฉพาะเจาะจงได้

ส่วนกรณีการก่อสร้างตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร โดยผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างค่อนข้างรัดกุม ซึ่งอาจจะเป็นเหตุเฉพาะ ขอให้รอรายละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้มีการทบทวนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอย่างต่อเนื่อง และมีการจัดเกรดผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ซึ่งในรายละเอียดผู้รับเหมาขนาดใหญ่พิเศษก็จะต้องมีการเข้าไปดูด้วย

ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ว่า ตึกที่ประสบเหตุมีการทำประกันภัยการก่อสร้างไว้ มูลค่ารับประกัน 2,100 ล้านบาท ผ่าน 4 บริษัท ทั้งนี้ ฐานะการเงินบริษัทดังกล่าวมีความมั่นใจว่าสามารถรับประกันได้