‘ตรัง’ยอดขายทองสะพัด  ‘กระเป๋าถือทองคำ’ใบละ3.6แสนฮอต

23 ก.ย. 2565 | 06:44 น.

เศรษฐกิจตรังเริ่มสะพัด ยอดขายร้านทองเพิ่มเห็นชัด สร้อยคอ 1 บาทคนแห่ซื้อฮิตสุด ไฮโซเมืองตรังนิยม “กระเป๋าถือทองคำ” นํ้าหนัก 12 บาท มูลค่าใบละ 360,000 บาท ซื้อกันแล้วหลายใบ ขณะเศรษฐีบ้านทุ่งยาว อ.ปะเหลียน แห่เปิดร้านทอง ตำบลเดียว 8 ร้าน ชี้กำไรดีกว่าฝากกินดอกเบี้ยธนาคาร

นางลดาวัลย์ ศัยศักดิ์พงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตุ้นเฮงหลี จำกัด เจ้าของห้างทองตุ้นเฮงหลี ถ.พระราม 6 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตั้งแต่สถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 ลดลง และรัฐบาลเปิดประเทศ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจจังหวัดตรังเริ่มฟื้น เห็นได้จากทองรูปพรรณของร้านทอง ตุ้นเฮงหลีทั้ง 4 แห่ง คือ อ.เมือง 3 แห่ง และ อ.กันตัง 1 แห่ง มียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนอย่างเห็นได้ชัด

 

ระยะนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่เข้ามาหาซื้อทองรูปพรรณมากกว่านำทองมาขาย โดยลูกค้ายังคงเลือกซื้อสร้อยคอทองคำ แหวน กำไล สร้อยข้อมือ ต่างหู จี้ ที่หนีบผมสตรี รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทองคำประเภทต่างๆ ทั้งเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น กานํ้าชา จอกชาทองคำ ก็ขายดี สินค้ายอดนิยมคือ สร้อยคอทองคำ นํ้าหนัก 1 บาท ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือแหวนทองคำ นํ้าหนัก 1 สลึง ก็ขายดีมาก เพราะเป็นสินค้าที่ซื้อได้ทั้งหญิงและชาย ขายได้ทุกวันทุกเทศกาล

นางลดาวัลย์ ศัยศักดิ์พงษ์ เจ้าของห้างทองตุ้นเฮงหลี 4 สาขาของตรัง

 

ผลิตภัณฑ์แฟชั่นทำด้วยทองคำ กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เถ้าแก่เนี้ยตรัง

“ที่สำคัญเวลานี้คนตรังบ้านเรามีรสนิยมสูง ผลิตภัณฑ์แนวแฟชั่นจากทองคำ เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพายสุภาพสตรี กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้ในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่อื่นๆ ซึ่งกระเป๋าถือทำจากทองคำใบหนึ่ง นํ้าหนักทอง 12 บาททอง มูลค่า 360,000 บาท เถ้าแก่เนี้ยเมืองตรังซื้อไปถือกันหลายใบแล้ว รวมทั้งกระเป๋าทองคำแบบสะพาย ใบหนึ่งนํ้าหนักทอง 5 บาท มูลค่า 150,000 บาท ก็เริ่มเป็นที่นิยม กำลังขายดีเช่นกัน”

 

ทั้งนี้ ประเภทของทองคำในตลาดทอง กลุ่มทองสวิส 99.99% เนื้อทองจะนิ่ม จึงนำมาเป็นทองแท่งอย่างเดียว ส่วนทองในประเทศไทยและย่านอาเซียน ส่วนใหญ่จะเป็นทอง 96.5% เพื่อขึ้นรูปทำเป็นทองรูปพรรณ กลุ่มเครื่องประดับ เครื่องใช้ ส่วนทองคำ 80% นั้นจะมีที่ดูไบ หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตลาดทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ ลอนดอน และนิวยอร์ค

‘ตรัง’ยอดขายทองสะพัด  ‘กระเป๋าถือทองคำ’ใบละ3.6แสนฮอต

‘ตรัง’ยอดขายทองสะพัด  ‘กระเป๋าถือทองคำ’ใบละ3.6แสนฮอต

การซื้อขายทองคำไม่ได้คึกคักเพียงในตัวเมืองตรังเท่านั้น นายปิติ มนัสปิยะเลิศ เจ้าของร้านทองธรรมทวี เปิดเผยว่า ทุ่งยาวเป็น ตำบลหนึ่งของ อ.ปะเหลียน เฉพาะที่ตลาดบ้านทุ่งยาวมีร้านทองถึง 8 ร้านด้วยกัน ของตนเองนั้นได้เปิดจำหน่ายทองมานานกว่า 30 ปีแล้ว เมื่อเศรษฐกิจดียางพารามีราคาสูง เถ้าแก่สวนยาง เถ้าแก่บ่อกุ้ง ก็หันมาเปิดร้านทองรับซื้อขายทองรูปพรรณกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดทุ่งยาวมีเศรษฐกิจดี ชาวบ้านขยันทำมาหากิน ทั้งทำสวนยางพารา ทำแปลงติดตายางเขียว ยางถุง สวนปาล์มนํ้ามัน บ่อกุ้ง ตลอดจนสวนผลไม้

 

เมื่อมีรายได้ดีชาวบ้านที่นี่นิยมซื้อทองรูปพรรณไว้เป็นทั้งเครื่องประดับ และเพื่อการสะสม เนื่องจากทองคำระยะยาวมีแต่ราคาจะปรับขึ้น ตลอดจนซื้อให้บ่าวสาวในงานแต่งงานลูกหลาน ขณะที่คนมุสลิมเองก็นิยมซื้อทองเพื่อสวมใส่ในงานประเพณีประจำปีจำนวนมากเช่นกัน

 

นายปิติกล่าวอีกว่า ลูกค้าที่เข้าร้านทอง มีทั้งเข้ามาหาซื้อทองรูปพรรณ เข้ามาขายหรือจำนำแลกเป็นเงินสดไว้ใช้ ปะปนกันไป ขณะที่ลูกค้าบางกลุ่มเช่นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เมื่อได้รับเงินค่าแรงก็สะสมไว้พอซื้อทองคำได้ 2-3 บาท ก็จะซื้อเพื่อส่งกลับไปให้ทางบ้านในเมียนมา ส่วนในตลาดทุ่งยาวเองคนที่กำลังเงินไม่พอซื้อทองนํ้าหนัก 1 บาทได้ จะใช้วิธี “ออมทอง” โดยฝากเงินสะสมไว้ที่ร้านทอง จนยอดสะสมครบจะรับเป็นทองรูปพรรณ ชนิดนํ้าหนัก 1 สลึง 2 สลึง หรือ 1 บาท แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก

 

“เถ้าแก่ร้านทองตลาดทุ่งยาวส่วนใหญ่จะเปิดร้านทองเป็นอาชีพที่ 2 เพิ่มเติมจากอาชีพหลักของครอบครัว เช่น ทำสวนยางพารา แปลงติดยางตาเขียว ยางถุง เลี้ยงกุ้ง ทำสวนผลไม้ หรือบางครอบครัวก็เปิดร้านทองไว้รองรับลูกๆ ที่เรียนจบไว้มีอาชีพไว้สร้างอนาคต สำหรับตนเองนั้นก็เปิดร้านทอง ต่อจากที่ทำสวนยาง สวนทุเรียน และเลี้ยงกุ้ง นอกนั้นยังทำขนมเปี๊ยะ เถ้าซอ ที่ทำมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษที่ขายกาแฟมาก่อน” นายปิติกล่าว

 

ด้านนางลดาวัลย์ กล่าวว่า เหตุที่ตลาดบ้านทุ่งยาวเป็นแหล่งชุมนุมร้านทอง เป็นเพราะคนบ้านทุ่งยาวมีเศรษฐกิจดี มีฐานะรํ่ารวย จากเดิมมีเงินเก็บเงินฝากในธนาคารหรือสถาบันการเงิน แต่เนื่องจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารทุกวันนี้ตํ่ามาก อยู่ที่เพียง 1-2% ต่อปี จึงหันมาลงทุนเปิดร้านทองกัน เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่า

 

การเปิดร้านทองจะได้กำไรจากส่วนต่างคือค่ากำเหน็จในการซื้อหรือขายทองแต่ละครั้งไม่มาก แต่จะได้ดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน หรือปีละ 15% เป็นดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย ขณะที่ทองคำเป็นสิน ทรัพย์ในตัวที่ทั่วโลกยอมรับ จึงเป็นหลักประกันที่มั่นคง เถ้าแก่บ้านทุ่งยาวเอาเงินฝากมาเปิดร้านทอง ไม่ต้องกู้ ไม่ต้องเช่าหน้าร้านเพราะใช้บ้านตัวเอง จึงมีความพร้อมมาก ความเสี่ยงจะมีอย่างเดียว คือต้องระมัดระวังโจรผู้ร้าย จะเข้ามาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือบางครั้งถึงปล้นทรัพย์เท่านั้น

 

บ้านทุ่งยาว เป็นตลาดเล็กๆ ของ ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่เศรษฐกิจแข็งแกร่ง เป็นแหล่งตั้งรกรากของคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว ที่เข้ามาบุกเบิกทำการเกษตร เช่น สวนยางพารา พริกไทย ปลูกยางพารา ทำแปลงติดตาเขียว ยางถุง เลี้ยงกุ้ง และสวนผลไม้ เมื่อเศรษฐกิจแข็งแกร่งสถาบันการเงิน ธนาคารก็มาเปิดให้บริการหลายสาขา ช่วงยางพาราราคาดีที่กิโลกรัมละร้อยกว่าบาท ได้หันมาเปิดร้านทองกันจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน ขณะบ้านท่าข้าม ซึ่งเป็นที่ตั้งตัวอำเภอปะเหลียนยังเงียบกว่า 

 

ธีมดี ภาคย์ธนชิต/รายงาน