อินไซด์ครม. รัฐหมดทางเลือก ออกพรก.ค้ำประกันกองทุนน้ำมันกู้เงิน 1.5 แสนล้าน

16 ส.ค. 2565 | 09:13 น.

อินไซด์ครม. ไฟเขียวร่างพ.ร.ก. กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้เงินก้อนโต 1.5 แสนล้าน แก้วิกฤตสภาพคล่อง หลังเงินกองทุนใกล้เกลี้ยงเหลือแค่หลักพันล้าน จับตาช็อตต่อช็อต เดินหน้ากู้เงินยังไงต่อ หลังวงในรับไม่ง่าย ยังต้องฝ่าอีกหลายด่านหิน

วาระร้อนคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชง “วาระลับ” เข้ามาให้ที่ประชุมครม. ไฟเขียว ร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

 

สาระสำคัญของเรื่องก็เพื่อหาเงินมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะฐานะทางการเงิน ณ ปัจจุบัน กองทุนขาดทุนสาหัสกว่า 117,394 ล้านบาท จากการเข้าไปตรึงราคาน้ำมันดีเซล ตามนโยบายลดค่าครองชีพของรัฐบาล โดยแยกเป็นในส่วนของน้ำมัน ติดลบแล้ว 76,518 ล้านบาท ขณะที่ LPG ก็ติดลบไม่น้อย 40,876 ล้านบาท

ภาพประกอบ นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

 

มีรายงานจากวงประชุมครม. ครั้งนี้ ระบุบรรยากาศในช่วงระหว่างการพิจารณาวาระลับครั้งนี้ “ไม่มีใครแย้ง” โดยรองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ รับหน้าที่รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเหตุผลความจำเป็นของการชงเรื่องนี้เข้ามาอย่างเร่งด่วน

 

โดยบอกเหตุผลว่า เงินกองทุนน้ำมันตอนนี้เกือบเกลี้ยง เหลือสภาพคล่องไม่ถึงพันล้านบาท ทุกวันกองทุนมีเงินไหนออกไปวันละไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อไปอุ้มราคาพลังงาน

 

ด้วยเหตุนี้กระทรวงพลังงาน จึงไม่มีหนทางไหนจะจำเป็นเท่าการเสนอร่างพ.ร.ก.ฉบับนี้เข้ามาเพื่อให้ครม.พิจารณาเห็นชอบ เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับกองทุนได้กลับมามีสภาพคล่องอีกครั้ง โดยตามกฎหมาย กำหนดกรอบวงเงินที่กระทรวงการคลังจะเข้าไปค้ำประกันให้สูงถึง 1.5 แสนล้านบาท

 

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล บอกว่า ที่ผ่านมากองทุนน้ำมันได้มีการกู้เงินเพื่อตรึงราคาน้ำมัน และก๊าซ LPG มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดวิกฤตราคาพลังงานพุ่งขึ้นสูง จนทำให้ฐานะกองทุนติดลบ 1.2 แสนล้านบาท จึงต้องหาเงินก้อนใหม่มาตรึงราคาต่อเนื่อง และกองทุนเองนั้นก็มีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ดังนั้นการกู้เงินจึงทำได้ไม่ง่าย

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงพลังงาน จึงได้เลือกแนวทางการออกพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีกรอบวงเงินอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท เพื่อให้กองทุนสามารถหาเงินกู้มาเสริมสภาพคล่อง และสามารถนำมาช่วยตรึงราคาน้ำมัน และ LPG ได้คล่องตัวกว่าเดิม

 

“แม้ว่าจะเปิดช่องให้กองทุนกู้เงินได้ แต่การกู้เงินก็ยังทำทันทีไม่ได้ เพราะกระทรวงพลังงาน ต้องไปคุยกับกระทรวงการคลังก่อนว่า เมื่อถึงเวลาจะเข้าไปค้ำประกัน คลังจะค้ำประกันยังไง ค้ำได้ไหม แล้วจะค้ำก้อนไหน เพราะนอกจากจะค้ำเงินกู้ก้อนใหม่แล้ว ยังมีหนี้ก้อนเดิมที่กองทุนเคยกู้มาก่อนหน้านี้ จึงต้องดูว่าคลังจะเข้าไปช่วยค้ำให้ได้หรือไม่” แหล่งข่าวระบุ 

 

ภาพประกอบ นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

 

อย่างไรก็ดีด้วยกรอบวงเงินที่สูงถึง 1.5 แสนล้านบาท ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม.ครั้งนี้ ยังมีความเห็นเพิ่มเติมจากคนในรัฐบาลว่าสมควรกู้เต็มเพดานมาโปะหนี้กองทุนตอนนี้ที่ติดลบเกือบ 1.2 แสนล้านบาทเลยหรือไม่ กรณีนี้ รองนายกฯ “วิษณุ เครืองาม” ให้ความเห็นภายหลังการประชุมครม. ชัดเจนว่า ได้คุยกันก่อนแล้วว่าไม่ต้องรีบร้อนกู้ และไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้น

 

ขณะเดียวกันในขั้นตอนตามกฎหมาย รองนายกฯ ยอมรับว่า เมื่อออกเป็นกฎหมาย พ.ร.ก. ถึงอย่างไรก็ต้องเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบตามขั้นตอนปกติ โดยไทม์ไลน์ ณ ตอนนี้ จะส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจสอบร่างอีกครั้ง และเสนอไปยังรัฐสภา

 

“ในช่วงระหว่างขั้นตอนการพิจารณานี้ กองทุนน้ำมันฯ ก็คงยังไม่กล้ากู้ เพราะต้องรอขั้นตอนสภาก่อน” รองนายกฯ ยืนยัน

 

ส่วนในขั้นตอนต่อไป ต้องติดตามกันช็อตต่อช็อต ว่า ร่างพ.ร.ก.ฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ผลการเจรจากับกระทรวงการคลังจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับการกู้เงินจะกู้มากแค่ไหน ไม่นานคงได้รู้กัน