เคลียร์ชัด รับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพ 3,000 บาท ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน

23 มิ.ย. 2565 | 08:15 น.

เช็คเงื่อนไข คุณสมบัติผู้สูงอายุได้รับเงินสงเคราะห์ช่วยค่าทำศพ 3,000 บาท รองโฆษกรัฐบาล ย้ำชัด ต้องมีฐานะยากจน และตรงตามหลักเกณฑ์ ตรวจสอบรายละเอียดได้ที่นี่

จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2563 เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี ที่มีฐานะยากจน รายละ 3,000 บาททำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าใจว่า การจ่ายเงินสงเคราะห์ดังกล่าวจ่ายให้แก่ผู้สูงอายุทุกรายนั้น 

 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การขอรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพตามประเพณี ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้ 

1.ผู้เสียชีวิตอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

2.สัญชาติไทย

3.ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

4.ผู้สูงอายุซึ่งอยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์

 

ขั้นตอนการยื่นคำขอ

ผู้ยื่นคำขอ (ครอบครัวผู้เสียชีวิต ญาติผู้รับผิดชอบจัดการศพ) จะต้องยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมกับเอกสารสำคัญ

  • ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ
  • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุหรือหนังสือรับรอง
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ (เพื่อโอนเงิน)

 

กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่สำนักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่นๆ ให้ยื่นคำขอในท้องที่ เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นต้น

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องการสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ขอย้ำว่า การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณีผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีฐานะยากจนตามคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว