ทส. ติวเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษ พบผลตรวจคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

03 มิ.ย. 2565 | 06:01 น.

ทส. ติวเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษ พบผลตรวจคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน คลองเสื่อมโทรมในกทม. พื้นที่คลองแสนแสบ คลองสาขา พื้นที่คลองแม่ข่า เชียงใหม่

จากปัญหาการระบายน้ำทิ้งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ในพื้นที่คลองเสื่อมโทรมในเขตกรุงเทพมหานคร พื้นที่คลองแสนแสบ ,คลองสาขา และคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่

คุ้งบางกะเจ้า

โดยมาตรการที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การกำกับให้แหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อมปฏิบัติตามกฎหมายและระบายน้ำทิ้งให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดความสกปรกที่จะระบายจากแหล่งกำเนิดมลพิษลงสู่แหล่งน้ำ

 

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ของ คพ.ในปีงบประมาณ 2565 รอบ 6 เดือนแรก(ตุลาคม 2564- เมษายน 2565)

ทส. ติวเข้มแหล่งกำเนิดมลพิษ พบผลตรวจคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

มีการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทอาคารบางประเภทและบางขนาด ที่ดินจัดสรร และฟาร์มสุกร จำนวนรวมทั้งสิ้น 302 แห่ง พบว่า แหล่งกำเนิดมลพิษที่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีจำนวน 87 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 35.37 และแหล่งกำเนิดมลพิษที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีจำนวน 159 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 64.63 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมาก

 

นายอรรถพล กล่าวว่า การผลักดันการดำเนินงานการจัดการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้มีการจัดการเป็นไปตามมาตรฐานก่อนระบายออกสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อให้คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำเป็นไปตามมาตรฐานและประเภทของการใช้ประโยชน์ และทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น

 

ทส. โดย คพ. จึงจัดการอบรมเพิ่มศักยภาพให้แก่แหล่งกำเนิดมลพิษที่มีผลคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษ และผู้ดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย

 

มีความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม และสามารถดูแลปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้สามารถบำบัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

 

 

 

คลองผดุง คลองหลอด

 

 

 

 

 

การอบรมในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทอาคารบางประเภทและบางขนาดและที่ดินจัดสรร จำนวนทั้งสิ้น 137 คนเข้าร่วมอบรม และ คพ.จะลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงแก้ไขและดูแลระบบบำบัดน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษ

คลองแสนแสบ

รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป สถานประกอบการใดที่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย และพร้อมที่จะขับเคลื่อนกลไกการจัดการน้ำเสียของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายอรรถพล กล่าว