ทีเส็บจัดเอกซ์โป"ชา-กาแฟ"ใหญ่สุดภาคเหนือปั้นเป็นศูนย์กลางโลก

23 ก.พ. 2565 | 09:13 น.

ทีเส็บจัดงาน World Tea and Coffee Expo งานชากาแฟใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เพื่อเร่งกระตุ้นอุตสาหกรรมชากาแฟครบวงจร ปั้นเป็นศูนย์กลางค้าชา-กาแฟระดับโลก

ทีเส็บพร้อมเดินหน้าจัดงาน World Tea and Coffee Expo 2022 งานชากาแฟใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ชูไฮท์ไลท์ "ไฮบริดเอ็กซ์ซิบิชั่น" มั่นใจภาคเหนือของประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง การผลิต และการค้าชาและกาแฟระดับโลก  คาดเงินสะพัดในงานมูลค่ากว่า10ล้านบาท

นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีการวางยุทธศาสตร์ชา กาแฟแห่งจังหวัดเชียงใหม่ 2561-2565 ตามนโยบายของรัฐ โดยมุ่งเน้นใน 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การพัฒนาการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม การพัฒนาด้านการตลาด การวิจัย/พัฒนา กลยุทธ์ และการบริหารจัดการ

ทีเส็บจัดเอกซ์โป"ชา-กาแฟ"ใหญ่สุดภาคเหนือปั้นเป็นศูนย์กลางโลก

 

ทีเส็บจัดเอกซ์โป"ชา-กาแฟ"ใหญ่สุดภาคเหนือปั้นเป็นศูนย์กลางโลก

ปัจจุบัน เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีศักยภาพและความพร้อมอย่างมากในการก้าวสู่เมืองกาแฟและชาที่สำคัญของโลก ด้วยองค์ประกอบที่เป็นทั้งพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพซึ่งเป็นต้นน้ำของ

 

อุตสาหกรรมกาแฟ มีธุรกิจร้านกาแฟกว่า 1,000 แห่ง รวมถึงมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกาแฟ ชาและการแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟ ชา ระดับอุตสาหกรรม ในส่วนของกลางน้ำและปลายน้ำอย่างครบวงจร

ทีเส็บจัดเอกซ์โป"ชา-กาแฟ"ใหญ่สุดภาคเหนือปั้นเป็นศูนย์กลางโลก

มั่นใจว่างานแสดงสินค้านิทรรศการและการประชุมชาและกาแฟระดับนานาชาติ (World Tea and Coffee Expo) จะเป็นเวทีสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงและเปิดโอกาสให้ผู้แสดงได้พบกับกลุ่มเป้าหมาย / นักลงทุน จากเชียงใหม่/ จังหวัดโดยรอบและต่างประเทศ ตามธีม “From local to global” และจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

 

ดร.จุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคเหนือ  กล่าวว่า ภาคเหนือของประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกชา กาแฟ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมและใบชาชั้นเลิศ การันตีด้วยรางวัลผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟระดับนานาชาติมากมาย และมีการพัฒนาการผลิต คุณภาพ อย่างต่อเนื่อง ด้วยภูมิประเทศที่เหมาะสมเอื้อต่อการที่จะพลักดัน ภาคเหนือ ยังสามารถไปต่อ เพราะยังมีศักยภาพ และโอกาสอีกมากที่จะนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมชาและกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการตลาด โดยใช้ไมซ์ เป็นตัวขับเคลื่อน ผ่านทางงานประชุมและแสดงสินค้าที่ สสปน. จัดเพื่อเร่งกระตุ้นอุตสาหกรรมชากาแฟครบวงจรสู่ระดับโลก

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) จึงได้จัดงานแสดงสินค้าและการประชุมชาและกาแฟระดับนานาชาติครั้งที่ 2 “The 2nd World Tea & Coffee Expo: The 2nd Tea and Coffee International Symposium” ในรูปแบบไฮบริด ที่เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์การประชุมเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่

ทีเส็บจัดเอกซ์โป"ชา-กาแฟ"ใหญ่สุดภาคเหนือปั้นเป็นศูนย์กลางโลก

งานแสดงสินค้าและการประชุมชา-กาแฟระดับนานาชาติ ครั้งที่ 2 เป็นโครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน มีจุดประสงค์ในการสร้างองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของภาคเหนือในฐานะภูมิภาคแห่งชาและกาแฟของไทยสู่สายตาชาวโลก 

 

ถือเป็นเวทีสำคัญในการพัฒนาช่องทางการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานของความยั่งยืนในอุตสาหกรรมชาและกาแฟในประเทศ นำดินแดนล้านนาเข้าสู่แผนที่อุตสาหกรรมกาแฟและชาระดับนานาชาติ

 

เพราะงานไมซ์ (Meetings, Incentives, Conferences and Exhibitions) ซึ่งอยู่ภายใต้บทบาทของ สสปน. สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการตลาดและความร่วมมือทางธุรกิจ นั่นคือที่มาการจัดงาน World Tea & Coffee Expo 2022 (WTCE 2022)

ธีมของงาน WTCE 2020 คือ "From Local to Global" เพื่อเน้นย้ำถึงการเคลื่อนไหวที่เข้มแข็งของภูมิภาคเพื่อเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการผลิต และการค้ากาแฟและชา รวมทั้งให้ปรากฏที่โดดเด่นมากขึ้นในแผนที่อุตสาหกรรมทั่วโลก

 

งานนี้แบ่งออกเป็น3 ส่วน ได้แก่งานสัมมนา งานแสดงสินค้า และการจับคู่ทางธุรกิจ 20 ราย ภายในงานจะรวบรวมผู้แสดงสินค้า 50 ราย โดย 45 รายเป็นบริษัทของไทย และอีก 5 รายจากต่างประเทศ ได้แก่ กัวเตมาลา อินเดียอินโดนีเซีย อิตาลี และญี่ปุ่น จะจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งผู้ซื้อและผู้เยี่ยมชมการค้าจะได้พบกับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และซัพพลายเออร์ชั้นนำที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

 

นอกจากนี้ ในการประชุมนี้ ผู้ปลูกและผู้ประกอบการในท้องถิ่นจะสามารถเข้าถึงข้อมูล ความรู้ และข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการผลิต แนวโน้มตลาด และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ซึ่งจะแบ่งปันโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศท่ามกลางกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ได้แก่ การจับคู่ธุรกิจที่มีความร่วมมือ หุ้นส่วน และการร่วมทุนในวงกว้างงาน WTCE 2022 จะมีการสาธิตสดของรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเทคนิคการชงกาแฟโดยแชมป์บาริสต้าจากกรุงเทพฯและภาคเหนือ

 

คาดว่า ตลอดระยะเวลา4วัน จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 ราย และมีธุรกรรมที่สะพัดภายในงานแสดงสินค้า เป็นมูลค่ากว่า10ล้านบาท และจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ผลิตกาแฟ และชาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน  จึงขอประชาสัมพันธ์งานให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในธุรกิจ ชา และ กาแฟ ห้ามพลาด

ทั้งนี้ ในงานจัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด อาทิ ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิหน้างาน การตรวจ ATK สำหรับผู้ร่วมออกงานแสดงสินค้า เจ้าหน้าที่ของผู้จัดงาน และการแสดงหลักฐานการรับวัคซีนมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 เข็ม สำหรับผู้เข้าร่วมชมงาน