เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เผยว่า มีความห่วงใยต่อสถานการณ์แล้งที่อาจจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำมากกว่าแผนแล้วกว่า 315 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มระดับน้ำทะเลจะขึ้นสูง
ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำรายภาค ในพื้นที่ภาคกลาง ลงพื้นที่ซักซ้อมแผนบริหารจัดการน้ำกับหน่วยงานหลัก ตาม 9 มาตรการรับมือภัยแล้งปีนี้ ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( สทนช.) การประปานครหลวง ( กปน. ) กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย( กฟผ.) และกรุงเทพมหานคร เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนปฏิบัติการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อส่งให้กับการประปา การเกษตร และผลักดันน้ำเค็มที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นในแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยาให้เกิดความชัดเจน รวมถึงนำข้อมูลมากำหนดมาตรการในการป้องกัน เพื่อรักษาคุณาพน้ำประปาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ สวนผลไม้ และไม้ดอก ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตลอดช่วงฤดูแล้งนี้ ณ บริเวณสถานีสูบน้ำบางเลน จ.นครปฐม และเขตหนองจอก กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคกลาง เผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนปฏิบัติการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง เพื่อส่งให้กับการประปา การเกษตร และผลักดันน้ำเค็มที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นในแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองท่าสาร-บางปลา และคลองพระยาบรรลือ เนื่องจากระดับน้ำทะเลคาดว่าจะขึ้นสูงในช่วงวันที่ 16-19 ก.พ. 2, 17, 30 มี.ค. 19-20 เม.ย. ซึ่งกรมชลประทานคาดการณ์ว่าจะมีการใช้น้ำภาคเกษตรเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายนนี้
ขณะเดียวกัน จะไม่มีน้ำที่ค้างทุ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำระบายมาช่วยผลักดันน้ำเค็ม จึงจำเป็นต้องประสานการทำงานร่วมกับ กฟผ. ในการผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองลงสู่แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. เป็นต้นไป ซึ่ง กฟผ. และ ชป. ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการใช้น้ำในลุ่มน้ำแม่กลองแต่อย่างใด ส่วนการประปานครหลวงยืนยันจะปรับแผนการสูบน้ำทั้งที่สถานีบางเลน จ.นครปฐม และที่ สถานีสำแล จ.ปทุมธานี เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานตลอดฤดูแล้งนี้ รวมถึงกรมชลประทานจะประสานร่วมกับสหกรณ์ผู้ประกอบการกล้วยไม้ไทยและกลุ่มเกษตรกรในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรักษาคุณภาพน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตอย่างต่อเนื่องด้วย
พลเอกประวิตร ยังได้เน้นย้ำให้การประปานครหลวง และกรมชลประทาน เร่งหาข้อสรุปในการบริหารจัดการลำเลียงน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองให้ชัดเจน รวมถึงการศึกษาการป้องกันน้ำเค็มรุก เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงของน้ำอุปโภคบริโภค และการเกษตร โดยให้เสนอแผนดังกล่าวต่อ กนช.ผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำเจ้าพระยาโดยเร็ว