svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

“อนุทิน” ไฟเขียว ทอท.สร้างเทอมินัลสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออก 7.8 พันล้าน

17 มกราคม 2565

“ศักดิ์สยาม” เผย “อนุทิน” ไฟเขียว สร้างเทอมินัลสุวรรณภูมิฝั่งตะวันออก 7.8 พันล้าน สั่งทอท.เร่งจ้าง ICAOศึกษาร่วม IATA รองรับผู้โดยสาร 65 ล้านคนในปี 68 ฟากทอท.คาดเปิดประมูล ก.ค-ก.ย.นี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 68

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครั้งที่ 1/2565 (ครั้งที่ 3) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ นั้น ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ ทอท. เร่งรัดการดำเนินการจ้าง ICAO ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้มีข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของ IATA เพื่อพิจารณาแนวทางการทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงเห็นชอบให้ ทอท. ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งมีความพร้อมและ ครม. อนุมัติโครงการไว้แล้ว ให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี เท่ากับช่วงก่อนเกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ในปี 2568

 

 

 

 “ที่ประชุมได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้ ทอท. ประสานสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในการเตรียมพร้อมรองรับปริมาณผู้โดยสารที่ IATA คาดการณ์ไว้ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางอันดับ 9 ของโลก โดยจะมีผู้โดยสารเข้ามาในไทยถึง 200 ล้านคน รวมถึงให้ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการขนส่งทางอากาศในกรณีที่มีการพัฒนารถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงด้วย”

 

 

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง โดยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2564 และครั้งที่ 2/2564 รวมทั้งการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ทอท. เร่งดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งมีความพร้อม และเร่งทบทวนแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมแนวทางการพัฒนาในลักษณะ Revisit 

 

 

 นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ด้านความก้าวหน้าการดำเนินงานจ้าง ICAO เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อจ้าง ICAO ขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างการประสานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง (Agreement) เพื่อให้ ICAO ดำเนินการศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมกราคม 2565 และแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2565 ทั้งนี้ ทอท. ได้หารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้การดำเนินงานของ ทอท. เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว

ส่วนความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ที่ประชุมรับทราบการส่งมอบพื้นที่ของ บริษัท คิง พาวเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้ส่งมอบพื้นที่บริเวณชั้น 2 Food Stop ที่เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ให้ ทอท. เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 และคณะกรรมการ ทอท. ในการประชุมได้มีมติอนุมัติงบลงทุนผูกพันเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ด้วยแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 เนื่องจากส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออกได้รับอนุมัติจาก ครม. ไว้แล้ว ดังนั้น คาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างปรับแบบในเดือนกรกฎาคม 2565 และเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ใช้ระยะเวลา 29 เดือน แล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนมีนาคม 2568

 

“อนุทิน” ไฟเขียว ทอท.สร้างเทอมินัลสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออก 7.8 พันล้าน

 


ด้านผลการศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย IATA เบื้องต้นที่ประชุมรับทราบผลการศึกษาที่แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 สรุปว่า การคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะฟื้นกลับมาในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งมีผู้โดยสารปีละประมาณ 65 ล้านคน ในช่วงปี 2567 - 2568 ทั้งนี้ IATA ได้ประเมินทางเลือกในการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรักษาระดับการให้บริการ (Level of Service : LoS) ของสิ่งอำนวยความสะดวกในอนาคตทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (Optimum) โดยเสนอให้พัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศและผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Mixed Concept) 

“อนุทิน” ไฟเขียว ทอท.สร้างเทอมินัลสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออก 7.8 พันล้าน

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(ทอท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เห็นชอบให้ ทอท.ดำเนินการ ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักหลังที่ 1 ด้านทิศตะวันออก (East Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงินลงทุน 7,830 ล้านบาท ตามที่ ทอท. นำเสนอ เนื่องจากเห็นว่าเป็นแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนที่ได้ข้อยุติ ไม่มีข้อโต้แย้งเรื่องการก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว  และมียังความสอดคล้องกับผลการศึกษาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่เห็นสมควรให้สร้าง 

 

 

“ที่ประชุมอนุมัติให้ ทอท. เดินหน้าก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกได้ทันที เพราะก่อนหน้านี้ครม.เคยมีมติอนุมัติไปแล้ว  งบลงทุนก็มีพร้อมหมดแล้ว  คาดว่าจะเปิดประมูลได้ช่วง ไตรมาสที่3ของปีนี้ หรือ ราวเดือน ก.ค-ก.ย.2565 ใช้เวลาก่อสร้างรวม 29 เดือน แล้วเสร็จประมาณปี 2568” 

“อนุทิน” ไฟเขียว ทอท.สร้างเทอมินัลสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออก 7.8 พันล้าน

 

อย่างไรก็ตาม สศช.ยังเห็นชอบกับแนวทางดังกล่าวแล้ว   รวมทั้งการดำเนินการสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกในขณะนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด  เพราะเป็นช่วงที่ผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่มากจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  หากมีการก่อสร้างส่วนตะวันออกตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการภายในอาคารผู้โดยสารหลักไม่มากนักแม้ว่าพื้นที่ก่อสร้างส่วนตะวันออกจะทับซ้อนและคาบเกี่ยวกับอาคารผู้โดยสารหลักในปัจจุบัน ส่วนโครงการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก (West Expansion)ที่ประชุมให้รอผลการศึกษาความเหมาะสมจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ก่อน