มนุษย์ควันแนะไทยเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้าชี้ดูฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่าง

27 ธ.ค. 2564 | 10:35 น.

มนุษย์ควันแนะไทยเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้าชี้ดูฟิลิปปินส์เป็นตัวอย่าง วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายยาสูบไร้ควัน ตั้งเป้าควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์แบบให้ความร้อน เพื่อไม่ให้เด็กเข้าถึงได้

นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ มนุษย์ควัน เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการออกกฎหมายผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบไม่เผาไหม้ หรือ Vaporized Nicotine Product bill ในประเทศฟิลิปปินส์ว่า วุฒิสภาฟิลิปปินส์เพิ่งผ่านร่างกฎหมายนี้เป็นที่เรียบร้อยมื่อสัปดาห์ก่อน 
หลังจากที่ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรของฟิลิปปินส์ก็มีมติเห็นชอบในร่างกฎหมายนี้มาแล้ว ซึ่งสภาฯฟิลิปปินส์เชื่อว่าจะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศได้ และยังจะช่วยให้คนสูบบุหรี่กว่า 17 ล้านคนในฟิลิปปินส์มีโอกาสเปลี่ยนไปไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่

สำหรับร่างกฎหมายผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบไม่เผาไหม้ มีสาระสำคัญเพื่อควบคุมการนําเข้า ผลิต ขาย การบรรจุ การจัดจําหน่าย การใช้และการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (HTPs) ตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อป้องกันประชาชนจากอันตรายของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ใช้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนแต่ก็มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศ เลยจำเป็นต้องมีการออกกฎหมายเพื่อควบคุมให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ 79 ประเทศทั่วโลก เช่น อังกฤษ สหภาพยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา คือการมีมาตรการควบคุมที่เฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เลย 
แต่ประเทศไทยกลับเลือกที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน โดยไม่ดูความต้องการของผู้สูบบุหรี่ที่มองหาผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ที่อันตรายน้อยกว่า ดังนั้นการแบนจึงไม่ได้ผล เพราะก็ยังมีผู้แอบซื้อ แอบใช้ จำนวนมาก ซึ่งอาจรวมถึงเด็กๆ และเยาวชนด้วย มีการขายกันเกลื่อนในโลกออนไลน์ แถมรัฐเก็บภาษีสรรพสามิต หรือภาษีศุลกากรก็ไม่ได้เลย

“เครือข่ายผู้บริโภคหลายองค์กรในฟิลิปปินส์ออกมาชื่นชมการผ่านร่างกฎหมายในครั้งนี้ เพราะแสดงให้ถึงการรับฟังเสียงของประชาชน เพราะฉะนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานของไทยเช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลฯ กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร หรือแม้กระทั่งคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรให้มีการถกเถียงและแก้ปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ไร้ควันของประเทศไทยบ้าง จะได้หาทางควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาคอรัปชั่นธุรกิจใต้ดิน และการแอบซื้อของเด็กและเยาวชน ที่เป็นปัญหาอยู่ในทุกวันนี้เพราะการแบนที่ล้มเหลวมาตลอด 7 ปี”