บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

09 ธ.ค. 2564 | 10:00 น.

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สุพรรณบุรี จ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564/65  "สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี"ภายใต้ความร่วมมือกระทรวงเกษตรฯกระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส.

วันที่ 9 ธันวาคม 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในกิจกรรมส่งมอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนาน ปีการผลิต 2564/65 (ประกันรายได้ข้าว) ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี 

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เต็มพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมงาน

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

รมช.ประภัตร เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวฯ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง  และ ธนาคาร ธ.ก.ส. ที่จะให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยกระทรวงเกษตรฯ 

ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาปรับปรุงและขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกระทรวงเกษตรฯ ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลกลางของประเทศ และเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 นั้น ได้รับการอนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564  และคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 จำนวน 74,569 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 4.69 ล้านครัวเรือน

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 จะประกันราคาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ 

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน 
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 
  • ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน 
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน 
  • ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 

โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรงตามข้อมูลทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านการประชุมของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ งวดที่ 3 - 7 ในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 13 ธันวาคม 2564 รวมทั้งสิ้น 3.58 ล้านครัวเรือน เป็นเงินจำนวนกว่า 64,000 ล้านบาท 

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

สำหรับในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีการโอนเงินให้เกษตรกร จำนวน 51,203 ครัวเรือน วงเงิน 1,064 ล้านบาท 

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect  รวมถึงสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับราคาข้าวเปลือก ธ.ก.ส. ยังได้ดำเนินมาตรการคู่ขนานผ่าน "โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65" เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว ไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและราคาตกต่ำ

วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร เป็นระยะเวลา 5 เดือน 

ตั้งเป้าดูดซับปริมาณข้าวเปลือก 2 ล้านตัน ประกอบด้วย

  • ชนิดข้าวเปลือกหอมมะลิในเขต 23 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และภาคเหนือ 3 จังหวัด (เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา)
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต 23 จังหวัด ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 และข้าวเปลือกเหนียวอีกด้วย

นายณัฏฐกิตติ์ เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมการข้าวได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2565 -2567 ซึ่งถือเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ชาวนาเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีสำหรับใช้เพาะปลูก และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก

ซึ่งดำเนินการบนพื้นที่ปลูกข้าว 76 จังหวัด และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว 29 แห่ง ในช่วงเดือนมกราคม 2565 - กันยายน 2567 

โดยมีเป้าหมายใน ปี2565 จำนวน 5 ล้านไร่ เมล็ดพันธุ์ข้าว 75,000 ตัน ปี 2566 จำนวน 10 ล้านไร่ เมล็ดพันธุ์ข้าว 150,000 ตัน และปี2567 จำนวน 12 ล้านไร่ เมล็ดพันธุ์ข้าว 180,000 ตัน รวมทั้งสิ้น 27 ล้านไร่ เมล็ดพันธุ์ข้าว 405,000 ตัน

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

ซึ่งโครงการดังกล่าว มีการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับเกษตรกรตามราคาโครงการประกันรายได้ คือ

  • ข้าวหอมมะลิ กิโลกรัมละ 15 บาท
  • ข้าวเจ้า กิโลกรัมละ 10 บาท
  • ข้าวหอมปทุม กิโลกรัมละ 11 บาท
  • ข้าวเหนียว กิโลกรัมละ 12 บาท

ซึ่งส่วนต่างจากราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณค่าเมล็ดพันธุ์รวมค่าขนส่ง และมีอัตราการช่วยเหลือไร่ละ 15 กิโลกรัม รายละไม่เกิน 450 กิโลกรัม (ตามพื้นที่ปลูกแต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่)

ส่งผลให้ชาวนาสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เองในครัวเรือนและชุมชน ตลอดจนสามารถผลิตข้าวคุณภาพดีเป็นที่ต้องการของตลาด นำมาสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 170,866 ล้านบาท และส่งออกข้าวคุณภาพได้เพิ่มขึ้น

รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า ภายในงานได้มีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าวได้นำเสนอผลงานแอปพลิเคชันระบบที่ปรึกษาชาวนา ที่สามารถช่วยตัดสินใจในการวางแผนการปลูกข้าว การเลือกพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง ดูแลและเฝ้าระวังเตือนภัยการระบาดของโรคแมลงที่สำคัญ พยากรณ์สภาพภูมิอากาศ คาดการณ์ราคา ตลอดจนเชื่อมโยงตลาดกับผู้บริโภค เพื่อให้ชาวนามีรายได้และกำไรสูงสุด 

บิ๊กตู่ เยือนสุพรรณฯ ลุย "ประกันรายได้ข้าว-สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก"

นอกจากนั้น ได้นำเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพการทำนาโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ เช่น การปรับระดับดินด้วยเลเซอร์ ท่อวัดระดับน้ำอัจฉริยะ โดรนสำหรับหว่านข้าวพ่นสารเคมี รถหยอดข้าวงอกติดตั้งพวงมาลัยอัตโนมัติ รถปักดำติดตั้งพวงมาลัยอัตโนมัติ โดรนสำรวจสุขภาพข้าว สถานีตรวจอากาศ และ platform ข้าว แสดงข้อมูลต่าง ๆ ในแปลงปลูกข้าว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะที่ชาวนาในพื้นที่ให้ความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี