สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างการเปิดเผยของโฆษก บริษัทเชฟรอน ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐอเมริกา ว่า เชฟรอนและทางการไทยเห็นพ้องการระงับกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการเป็นการชั่วคราวในการแก้ปัญหาพิพาทเพื่อหาผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณ อ่าวไทย โดยจะคงการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาตามการผลักดันของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย แต่อาจหันมาใช้กระบวนการทางอนุญาโตตุลาการหากการเจรจาแก้ปัญหาไม่บรรลุผล
ท่าทีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการปรับแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ปี 2559 ซึ่งเดิมให้ผู้รับสัมปทานรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ไม่ใช้เมื่อสิ้นอายุสัมปทาน เป็นการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรื้อถอนสิ่งติดตั้ง แม้โอนให้ผู้รับสัมปทานรายอื่น ทำให้เชฟรอนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายล่วงหน้าทั้งหมดในการรื้อถอนสิ่งติดตั้งในแหล่งเอราวัณซึ่งจะสิ้นอายุสัมปทานในปี 2565 รวมถึงสิ่งติดตั้งที่โอนให้ ปตท.สผ.ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานรายใหม่
ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514 มาตรา 80/1 ระบุว่า ผู้รับสัมปทานมีหน้าที่รับผิดชอบในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการสำรวจผลิต เก็บรักษาหรือขนส่งปิโตรเลียม โดยให้ผู้รับสัมปทานยื่นแผนงานและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งการออกกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับเมื่อปี 2559