จากช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลให้ บริการส่งอาหารหรือ “Food Delivery” กลายเป็นบริการที่ร้อนแรงที่สุด เรียกได้ว่าครึ่งปีแรกทุกแพลตฟอร์มเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยแรงหนุนของโควิด ขณะที่ครึ่งหลังของปีต่างก็ต้องเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อชิงแชร์เบอร์ 1 ของตลาดฟู้ดดีลิเวอรีที่มีมูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้าน
ไลน์แมนเดินหน้าผนึกพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านร้านอาหารภายใต้ชื่อ “LINE MAN Wongnai” ด้วยจุดแข็งจำนวนผู้ใช้แอคทีฟรวมกันกว่า 13 ล้านคนต่อเดือน ลั่นพร้อมขึ้นเบอร์ 1 ฟู้ดแพลตฟอร์มใน 3 ปีโดยนายยอด ชินสุภัคกุล CEO แห่ง LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า การควบรวมกันครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอีโคซิสเต็ม Online-to-offline สำหรับทั้งผู้ใช้และร้านอาหาร โดยไลน์เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 40% สำหรับไลน์แมนนั้นมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชันกว่า 9 ล้านครั้ง ผู้ใช้แอคทีฟ (Active User) 3 ล้านคนต่อเดือน พาร์ท เนอร์ร้านอาหารกว่า 2 แสนร้าน และวงในมีผู้ใช้แอคทีฟ 10 ล้านคนต่อเดือน พารทเนอร์ร้านอาหารกว่า 4.3 แสนร้าน มีพนักงานรวมกันขณะนี้กว่า 600 คน ซึ่งแผนธุรกิจของ ไลน์แมนวงใน ในปีแรกจะโฟกัสการทำงานร่วมกันเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการไปสู่หัวเมืองใหญ่ และใน 3 ปี ตั้งเป้าสู่อันดับ 1 ฟู้ดแพลตฟอร์มของไทย รวมถึงขยายบริการไปยังเมืองหลักและเมืองรอง 20 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปี
ขณะที่ เก็ท ก็ได้รีแบรนด์ไปใช้ชื่อผู้ถือหุ้นหลักอย่าง โกเจ็ก เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยไปเมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมชู 4 บริการหลัก
จากการแข่งขันอย่างดุเดือดส่งผลให้แพลตฟอร์มฟู้ดดีลิเวอรีรายแรกๆ ในไทยอย่าง “Foodpanda” ต้องเบนเข็มหลบสมรภูมิ ไปเพิ่มรายได้ในธุรกิจค้าปลีกแบบส่งด่วนแทน โดยอาศัยจังหวะที่ผู้บริโภคกำลังคุ้นเคยกับบริการดีลิเวอรีในยุค Quick Commerce ที่ลูกค้าไม่ชอบรอ
ทั้งนี้ “แพนด้ามาร์ท” ใช้โมเดลเดียวกับธุรกิจค้าปลีก (Retail Business) ที่มีรายได้หลักมาจากยอดจำหน่ายสินค้า กว่า 2,700 SKU และเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงในช่วงแรกจะรุกตลาดด้วยโปรโมชันส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อเกิน 50 บาท การันตี จัดส่งภายใน 20 นาที ขณะนี้เปิดบริการครอบคลุม 7 เขตพื้นที่โดยตั้งเป้าที่จะขยายให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานคร รวมถึงจังหวัดต่างๆ ภายในสิ้นปีนี้