อีดิสโปร แอคทีฟ หนุนเวิร์กฟรอมโฮม เปิดใช้ฟรีระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ฝีมือคนไทย “The AT Work” เป็นทางเลือกให้กับองค์กร พนักงาน สื่อสารทำงานร่วมกัน ชูจุดเด่นบริหารจัดการห้องประชุม มีระบบจดบันทึกรายงานประชุม ผู้บริหารองค์กรสามารถตรวจสอบพนักงานร่วมประชุม
นางสาวอลิสา จีรภิญญาภัฎ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีดิสโปร แอคทีฟ จำกัด ผู้รับออกแบบพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชันสำหรับธุรกิจ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้หลายองค์กร มีนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่องภายใต้วิกฤติการระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามหลายองค์กรยังประสบปัญหาในการจัดหาเครื่องมือการสื่อสาร หรือประสานการทำงานร่วมกันของคนในองค์กร บริษัทจึงได้พัฒนาระบบ The AT Work ซึ่งเป็นระบบประชุมทางไกล หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และพนักงาน สามารถเข้าไปลงทะเบียนใช้งานฟรี ผ่านเว็บไซต์ http://theatwork.com
“The AT Work เป็นระบบที่พัฒนาต่อยอดมาจาก “ศึกษาออนไลน์” ซึ่งเป็นระบบการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเมื่อเรามองว่าขณะนี้ประเทศกำลังประสบกับวิกฤติการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 องค์กรต้องการเครื่องไม้เครื่องมือช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าไปต่อเนื่อง จึงได้พัฒนา The AT Work ซึ่งเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร และทำงานร่วมกันของคนในองค์กร
ทั้งนี้ The AT Work สามารถรองรับการประชุมร่วมกันของพนักงานในองค์กรได้ 70 คน ซึ่งจุดเด่นที่แตกต่างจากระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ชื่อดังจากต่างประเทศ คือ เป็นระบบที่คนไทยพัฒนาขึ้นมาจึงมีความเข้าใจความต้องการใช้งานขององค์กรในไทย นอกจากนี้ยังฟีเจอร์เด่น คือ โน้ต จดบันทึกการประชุม ที่เลขาฯ หรือแอดมินสามารถจดรายงานการประชุมได้ มีฟีเจอร์จองห้องประชุม และผู้บริหารสามารถติดตาม ตรวจสอบได้หมดว่าพนักงานเข้าร่วมประชุมหรือไม่ นอกจากนี้ผู้เป็นโฮสต์การประชุมสามารถควบคุมการประชุมได้หมด ทั้งการสั่งปิดไมค์ หรือกล้องวิดีโอ
นางสาวอลิสา กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับ “ศึกษาออนไลน์” ระบบการเรียนการสอนผ่านทางออนไลน์นั้นขณะนี้ถูกเลือกเป็นหนึ่งในระบบการเรียนการสอนออนไลน์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน หรือ สช. โดยล่าสุดมีโรงเรียนในสังกัด สช.เข้ามาลงทะเบียนใช้งานระบบแล้ว 40 แห่ง และมีนักเรียนเข้ามาลงทะเบียนใช้งานระบบมากกว่า 10,000 คน โดยตามโรดแมปเดือนเมษายนนี้จะเริ่มให้โรงเรียนเข้ามาทดลองเปิดคลาสเรียนในระบบ เพื่อให้ทันกับการเปิดเรียนกลางพฤษภาคม ระหว่างนี้จัดเตรียมเทรนนิ่งการใช้งานระบบ กับครูแกนนำในแต่ละชั้นเรียนผ่าน The AT Work
หลังจากผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปเราอยากให้ภาคการศึกษามีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์และจัดระเบียบการเรียนการสอนผ่านออนไลน์จริงจัง เด็กที่เรียนจบทางออนไลน์มีประกาศนียบัตรให้เหมือนเรียนในชั้นเรียน ภาคการศึกษาจะต้อง ไม่มองว่าแพลตฟอร์มการมองเป็นแค่เครื่องมือทางการศึกษา”
หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,563 วันที่ 5-8 เมษายน 2563