Apple จัดเต็ม! “iPhone X-iPhone 8-iPhone 8 Plus” กับการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่
ฐานเศรษฐกิจ ∣ บิ๊กอีเวนต์ส่งท้ายปีของ “แอปเปิ้ล (Apple)” นับว่า สร้างความตื่นตาให้กับบรรดาคอไอทีและสาวกได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง “iPhone X” รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี ที่มีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด และเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงลูกเล่นฟีเจอร์ใหม่
iPhone X
สมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง “iPhone X” นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของแอปเปิ้ลในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอไร้ขอบ, จอ OLED, ชาร์จแบบไวเลส และกล้องที่มีเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้า ซึ่ง ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง “iPhone X” จะมีราคาอยู่ที่ 999$ หรือประมาณ 33,106 บาท และจะเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนแห่งโลกอนาคต ด้วยนิยาม “เรียบ ๆ, สะอาด และใช้งานง่าย”
“iPhone X” จะมีด้วยกัน 2 สี คือ สีเทาสเปซเกรย์และสีเงิน ประกอบด้วย จอภาพ Super Retina HD, จอภาพ Multi-Touch แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ขนาด 5.8 นิ้ว, ขนาดความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi ซึ่งเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่ไม่มี “ปุ่มโฮม” โดยเปลี่ยนมาใช้การปัดขึ้น ที่ทำให้กลับไปยังหน้าจอโฮมจากที่ไหนก็ได้ ... “iPhone X” จะเปิดให้มีการพรีออเดอร์ในวันที่ 27 ต.ค. และจะวางจำหน่ายอย่างทางการในวันที่ 3 พ.ย.
[caption id="attachment_207167" align="aligncenter" width="700"]
iPhone X[/caption]
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
จาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อัปเดทมาสู่ “iPhone 8” และ “iPhone 8 Plus” ที่มีการดีไซน์แบบกระจกทั้งหมด แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ด้านหลังเป็นขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศสีเดียวกับกระจก สำหรับหน้อจอมีการแสดงผลแบบ True Tone ที่มีขอบเขตสีกว้าง ปรับไวท์บาลานซ์ให้ตรงกับสภาพแสงรอบ ๆ โดยอัตโนมัติ และมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ “ชิพ A11 Bionic” ที่ทรงพลังและฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มีคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ เร็วสูงสุดถึง 25%
“iPhone 8” และ “iPhone 8 Plus” กับกล้องที่เพิ่มประสบการณ์ความสมจริง ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและไวขึ้น ซึ่ง “iPhone 8 Plus” มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่เรียกว่า “Portrait Lighting หรือ การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” สามารถระบุองค์ประกอบบนใบหน้าและสร้างเอฟเฟ็กต์แสงระดับสตูดิโอ ... มีขนาดความจุ 2 รุ่น คือ 64GB และ 256GB โดย “iPhone 8” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699$ หรือประมาณ 23,164 บาท และ “iPhone 8 Plus” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 799$ หรือประมาณ 26,478 บาท ซึ่งจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 15 ก.ย. และจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ก.ย.
iPhone X
สมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง “iPhone X” นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของแอปเปิ้ลในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอไร้ขอบ, จอ OLED, ชาร์จแบบไวเลส และกล้องที่มีเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้า ซึ่ง ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง “iPhone X” จะมีราคาอยู่ที่ 999$ หรือประมาณ 33,106 บาท และจะเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนแห่งโลกอนาคต ด้วยนิยาม “เรียบ ๆ, สะอาด และใช้งานง่าย”
“iPhone X” จะมีด้วยกัน 2 สี คือ สีเทาสเปซเกรย์และสีเงิน ประกอบด้วย จอภาพ Super Retina HD, จอภาพ Multi-Touch แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ขนาด 5.8 นิ้ว, ขนาดความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi ซึ่งเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่ไม่มี “ปุ่มโฮม” โดยเปลี่ยนมาใช้การปัดขึ้น ที่ทำให้กลับไปยังหน้าจอโฮมจากที่ไหนก็ได้ ... “iPhone X” จะเปิดให้มีการพรีออเดอร์ในวันที่ 27 ต.ค. และจะวางจำหน่ายอย่างทางการในวันที่ 3 พ.ย.
[caption id="attachment_207167" align="aligncenter" width="700"]
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
จาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อัปเดทมาสู่ “iPhone 8” และ “iPhone 8 Plus” ที่มีการดีไซน์แบบกระจกทั้งหมด แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ด้านหลังเป็นขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศสีเดียวกับกระจก สำหรับหน้อจอมีการแสดงผลแบบ True Tone ที่มีขอบเขตสีกว้าง ปรับไวท์บาลานซ์ให้ตรงกับสภาพแสงรอบ ๆ โดยอัตโนมัติ และมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ “ชิพ A11 Bionic” ที่ทรงพลังและฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน มีคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ เร็วสูงสุดถึง 25%
“iPhone 8” และ “iPhone 8 Plus” กับกล้องที่เพิ่มประสบการณ์ความสมจริง ความละเอียด 12MP เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและไวขึ้น ซึ่ง “iPhone 8 Plus” มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่เรียกว่า “Portrait Lighting หรือ การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล” สามารถระบุองค์ประกอบบนใบหน้าและสร้างเอฟเฟ็กต์แสงระดับสตูดิโอ ... มีขนาดความจุ 2 รุ่น คือ 64GB และ 256GB โดย “iPhone 8” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699$ หรือประมาณ 23,164 บาท และ “iPhone 8 Plus” ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 799$ หรือประมาณ 26,478 บาท ซึ่งจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 15 ก.ย. และจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ก.ย.
