"เปลือกไข่บด" แปรรูปสู่ปุ๋ย ลดต้นทุนเกษตรกร

17 พ.ค. 2564 | 12:30 น.

ซีพีเอฟ ชูโมเดลโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก นำเปลือกไข่บดจากกระบวนการผลิต แบ่งปันให้เกษตรกรในพื้นที่ทำปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังสอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030 และเดินตามเป้าหมาย SDGs

นางวรรณทนีย์​ ชำนาญเศรษฐการณ์​ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรตลอดกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยโมเดลการทำงานของโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก มีการบริหารจัดการเปลือกไข่จากกระบวนการผลิต เฉลี่ยปีละ 1,000 ตัน โดยตั้งแต่ปี 2557 ได้ดำเนินโครงการ "ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด" นำเปลือกไข่บด กระจายให้เกษรกรในพื้นที่นำไปหมักทำปุ๋ย หรือนำไปผสมเตรียมดินเพื่อใช้ปลูกต้นไม้ โรยที่โคนต้นไม้ 

นอกจากนี้ ยังร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินนครนายก อบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อให้คนในชุมชนและเกษตรกร นำปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บดไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สามารถช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี สร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือน และเป็นการส่งเสริมชุมชนบริโภคผลผลิตที่ปลอดภัย เป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตัดวงจรการนำเปลือกไข่ไปทิ้งสู่หลุมฝังกลบ (Waste to Landfill) สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่ชุมชนและสังคมโดยรอบ 

โครงการดังกล่าว สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals :SDGs) อาทิ ขจัดความอดอยากและสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ส่งเสริมความยั่งยืนในระบบนิเวศบนบก และการสร้างความร่วมมือกับเครือข่าย เป็นต้น 

ซีพีเอฟ ได้นำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินตามเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบ ให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030  (Zero Food Waste to Land Fill) โดยตั้งคณะทำงาน "สร้างคุณค่า ไร้ขยะ... Waste to Value"ขึ้น เพื่อบริหารจัดการด้านลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss) , ขยะอาหาร (Food Waste) และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้กรอบแนวปฏิบัติสากลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) :  food loss and waste protocol (FLW) 

"เปลือกไข่บด" แปรรูปสู่ปุ๋ย ลดต้นทุนเกษตรกร

ทั้งนี้ ในปี 2563  โรงงานฯ มีปริมาณเปลือกไข่จากกระบวนการผลิตทั้งหมด 1,302 ตัน จัดสรรให้เกษตรกร 65 % และอีก 35% นำไปใช้ปรับพื้นที่ในโรงงาน ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564  (ม.ค.-เม.ย.64) มีปริมาณเปลือกไข่ 520 ตัน ปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่ประมาณ 80 รายที่ได้รับประโยชน์ และมีการขยายสู่กลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  

นางสาววิลาวัลย์ เรียนเวช นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินนครนายก กล่าวว่า  ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ซึ่งทางโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา มีโครงการ"ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด" ทางสถานีพัฒนาที่ดินนครนายก ได้ประสานกับโรงงาฯ เพื่อขอนำเปลือกไข่บดมาให้เกษตรกรใช้ประโยชน์หมักเป็นปุ๋ย หรือบางรายก็นำเปลือกไข่บดไปเทใส่ในดินหรือโคนต้นไม้  ซึ่งเปลือกไข่บดมีคุณสมบัติช่วยให้โครงสร้างของดินดีขึ้น ทำให้ดินโปร่งขึ้น ส่งผลให้รากของพืชชนิดต่างๆ สามารถชอนไชหาอาหารได้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารของพืชในดิน ทำให้ผลผลิตเติบโตได้ดี เกษตรกรมีผลผลิตเพิ่มขึ้น 10-15% ที่สำคัญ คือ เปลือกไข่บดช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร ขอบคุณซีพีเอฟที่นำเปลือกไข่ที่เหลือจากการผลิตมาเพิ่มทางเลือกในการปรับปรุงดิน และเกิดประโยชน์กับเกษตรกร

"เปลือกไข่บด" แปรรูปสู่ปุ๋ย ลดต้นทุนเกษตรกร

นายเกรียงไกร วงศ์ทวีวัฒนา อายุ 57 ปี อาชีพทำการเกษตรและนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์ส่งจำหน่าย เล่าว่า  ได้รับคำแนะนำจากคุณครูของรร.คลองโพธิ์ ซึ่งขอรับเปลือกไข่จากโรงงานของซีพีเอฟอยู่แล้ว จึงอยากจะนำเปลือกไข่มาทดลองกับผักและผลไม้ที่สวน โดยขอรับเปลือกไข่บดจากโรงงานมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันที่เข้าไปรับเปลือกไข่บดมาครั้งละ 1 ตัน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นำมาผสมกับแกลบดำ ปุ๋ยคอก หญ้า ฟาง ใส่น้ำหมักและทิ้งไว้ 1-2สัปดาห์ นำไปใส่โคนต้นไม้ สังเกตได้ว่าเปลือกไข่บดมีส่วนช่วยปรับปรุงสภาพดินให้มีความโปร่งขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเติบโตได้ดี ต้องขอขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของซีพีเอฟที่มีต่อเกษตรกรในพื้นที่ เป็นเรื่องที่ดีที่บริษัทฯมีโครงการอย่างนี้ และอยากจะให้ช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

"เปลือกไข่บด" แปรรูปสู่ปุ๋ย ลดต้นทุนเกษตรกร

ด้านนางวารินทร์ สุขชม เพิ่งเกษียณอายุราชการจากอาชีพครู กล่าวว่า บ้านซึ่งอยู่ใกล้โรงงานแปรรูปไข่บ้านนาอยู่แล้ว จึงขอเปลือกไข่บดจากโรงงานมาใส่ต้นไม้ ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงที่ยังทำงานอยู่ จะนำรถกระบะไปบรรทุกเปลือกไข่จากโรงงานทุกวันเสาร์ ครั้งละประมาณ 1 ตัน แต่ช่วงปิดเทอมจะเข้าไปรับเปลือกไข่มาทุกวัน จนถึงปัจจุบันก็ยังไปรับเปลือกไข่จากโรงงานฯอยู่ โดยนำมามาโรยที่โคนต้นไม้ เปลือกไข่บด ช่วยให้ต้นไม้ ไม้ผลต่างๆเติบโตได้ดี ผลผลิตลูกใหญ่ขึ้น เช่น มะพร้าว กะท้อน กล้วย มะนาว มะละกอ ฯ ทำให้ได้บริโภคผัก ผลไม้ ที่ปลอดภัย เพื่อนบ้านมักจะมาถามว่าทำไมต้นไม้ที่บ้านเติบโตดี ก็จะแนะนำต่อว่าทางโรงงานของซีพีเอฟมีเปลือกไข่บดที่นำมาใช้เป็นปุ๋ยได้ ตอนนี้ในพื้นที่ที่เหลือ เริ่มนำต้นไม้มาปลูกเพิ่มขึ้น และใช้เปลือกไข่จากโรงงานของซีพีเอฟ โรยโคนต้นไม้ ช่วยให้ต้นไม้เติบโตได้ดี ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง