ตำรวจเตรียมดำเนินคดี “ม็อบ” หน้าศาลอาญา 6 กลุ่ม

09 มี.ค. 2564 | 06:22 น.

ตำรวจนครบาลแถลงเตรียมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมหน้าศาลอาญา รัชดา 6 กลุ่ม เตือนร่วมชุมนุมผิด พรก.ฉุกเฉิน และ พรบ.ควบคุมโรค

พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีการจับกุมตัวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ที่ห้างเมเจอร์รัชโยธิน โดยระบุว่า ตามที่มีการประกาศร่วมชุมนุมสถานที่สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ ศาลอาญา รัชดา สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทั่วกรุงเทพมหานคร  กองบัญชาการตำรวจนครบาลขอเตือนพี่น้องประชาชนว่า ขณะนี้เขตกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ประกาศห้ามชุมนุมตาม พรก.ฉุกเฉินและพรบ.ควบคุมโรค การชุมนุมหรือการมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคจะเป็นความผิดตามกฎหมาย 
สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ศาลอาญา รัชดากองบัญชาการตำรวจนครบางได้แบ่งกลุ่มการดำเนินคดีออกเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้ 

กลุ่มที่ 1 ได้แก่ นายโตโต้รวมกับพวก 18 คน ถูกดำเนินคดีในฐานะสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อเตรียมการกระทำการกระทำผิดกฎหมายอาญาตามภาค 2 ของประมวลกฎหมายอาญา ก็คือตามมาตรา 107 – 366 ซึ่งการมั่วสุมดังกล่าวและพวกเป็นการเตรียมก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองตามมาตรา 215 วรรค 1 และ วรรค 2 ตำรวจได้ทำการสืบสวนและพบการกระทำผิดและได้ทำการจับกุมซึ่งเป็นการจับกุมความผิดซึ่งหน้าโดยไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ นอกจากนั้นยังมีความผิดตามมาตรา 209 และ เป็นความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน และ พรบ.ควบคุมโรคอีกส่วนหนึ่งด้วย 4 ข้อหาหลัก 

กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับได้และได้หลบหนีไปจากการควบคุมของตำรวจในส่วนนี้มีความผิดใน 4 ข้อหาเช่นเดียวกันกับ 18 คนแรก  และมีความผิดตามมาตรา  190 คือ หลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงาน ในส่วนนี้มีการมาปกฎตัวกับตำรวจ สน.พหลโยธิน ตำรวจได้ปล่อยตัวให้กลับไปก่อนจากนั้นจะทำการพิสูจน์ทราบว่าทั้ง 27 คน ที่มามอบตัวเป็นคนหลบหนีจากควบคุมใช่หรือไม่  เมื่อชัดเจนว่าเป็นคนหลบหนีจริง ตำรวจจะออกหมายเรียกมารับทราบ 4 ข้อหาเดิมและอีก1ข้อหาใหม่ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาบางส่วนที่ไม่ได้มาพบตำรวจก็ต้องมีการออกหมายเรียกมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

กลุ่มที่ 3  ตามที่ปรากฎภาพและคลิปวิดีโอว่ากลุ่มผู้ชุมนุม กลุ่มการ์ด กลุ่มบุคคล  ได้มาทุบทำลายรถทางราชการและชิงตัวผู้ต้องหา ทำร้ายเจ้าพนักงาน ชิงของกลางบางส่วนไปจากการดูแลของเจ้าพนักงานจะมีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาหรือผู้ถูกควบคุมในอำนาจของพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญาให้หลุดพ้นไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงานต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาตามมาตรา 191 อีกส่วนหนึ่งด้วย และถ้าความปรากฎว่าผ็ชุมนุมคหนึ่งคนใดหรือในกลุ่มมีหลักฐายโยงไปถึงการทุบทำลายทรัพย์สินและทำร้ายตำรวจก็จะเป็นความผิดฐานต่อสู้เจ้าพนักงานโยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และใช้อาวุธ ซึ่งจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 และมาตา 140  และยังมีความผิดอื่น ๆเช่น ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ของทางราชการอีกส่วนหนึ่งด้วย  นอกจากนี้กลุ่ม
 

กลุ่มที่ 4 ตามที่ปรากฎภาพที่มีกลุ่มได้ทุบทำลายแนวรั้ว ทรัพย์สินทางราชการของศาลอาญา รัชดา มีการนำสิ่งต่าง ๆ มาเผารวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย มีการบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของศาลอาญาและสำนักงานอัยการสูงสุด ในส่นนี้เป็นความผิดในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ ในเวบากบลางคืนและความผิดบางส่วนจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลและพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีความผิดตามมาตรา 112 หรือไม่ 

กลุ่มที่ 5 คือ ผู้ชุมนุมอื่นๆ แน่นอนว่าอยากเตือนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ห้ามชุมนุม การชักชวนผ่านสื่อ การเป็นผู้จัด หรือเป็นผู้สนับนุนให้มีการชุมนุม ตลอดจนมาเป็นผู้ชุมนุม ถือว่าเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายตาม พรก.ฉุกเฉินและพรบ.ควบคุมโรค
กลุ่มที่ 6 กรณีเมื่อ 23.00 ที่ตำรวจ ตชด. ที่ 31 กำลังเดินทางกลับได้มีกลุ่มคนใช้ลูกเหล็ก หนังสติ๊ก และอาวุธปืน ยิงใส่รถตำรวจเป็นเหตุให้รถทางราชการได้รับความเสียหายเป็น กระบะ 1 คัน หกล้อ 2 คัน รถบัส 3 คัน จากตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานพบร่องรอยของการถูกยิ่ง น่าเชื่อว่าเป็นอาวุธปืน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาดำเนินการว่าการกระทำของผู้ชุมนุมเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าหนักงานด้วยหรือไม่

สำหรับกรณีที่นายโตโตอ้างว่าทรัพย์สินหายไปนั้นจากการตรวจสอบพบว่าในวันนั้นมีกลุ่มบุคคลได้มาทำการทุบทำลายรถของทางราชการและมีการแย่งชิงตัวผู้ต้องหา รวมทั้งของกลางบางส่วนไป มีการนำ ชิงหรือปล้น ทรัพย์ของตำรวจซึ่งเป็นส่วนตัว ขณะนี้ได้รับรายงานจากผู้บาดเจ็บที่ให้การได้เมื่อวานนี้และทำการพิสูจน์ทราบพบว่าคนเจ็บมีความเป็นห่วงทรัพย์สินของกลางบางส่วนที่ได้ซ่อนไว้บริเวณใต้เบาะนั่ง ซึ่งตำรวจได้ตรวจค้นและเจอของกลางเป็นทรัพย์สินของนายโตโต้ที่กล่าวอ้างแล้ว โดยได้นำเข้าสู่กระบวนการสอบสวน และใช้เป็นของกลางในคดีอาญา  ส่วนถ้ามีทรัพย์สินที่สูญหายไปและตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจก็ต้องมีการพิจารณาต่อไป แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นการประทุษร้าย เป็นการชิงเอาไป หรือร่วมกันชิงเอาไปของกลุ่มผู้ชุมนุม ในส่วนนี้ผู้ชุมนุมจะต้องรับผิดชอบ 
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้คืน เช่น โทรศัพท์ พระเหลี่ยมทอง สร้อยคอ เจ้าหน้าได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเบื้องต้นแล้ว และจะมีการแจ้งความต่อไป  

ขณะที่ศาลอาญา รัชดา อยู่ระหว่างการประสานงานเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ส่วนบางกรณีที่ศาลสามารถดำเนินการภายใต้อำนาจก็คงต้องดำเนินการไป ส่วนที่มีความเสียหายและต้องใช้พนักงานสืบสวนสอบสวนจะต้องดำเนินการต้องแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป