คลายล็อก 7 วัน พนัน-ก๊งเหล้าพุ่ง

10 พ.ค. 2563 | 06:04 น.

"ปิยะ"เผยหลังผ่อนคลาย 7 วันภาพรวมกระทำผิดสูง 900 กว่าคดี พบออกนอกเคหะสถาน พนัน ตั้งวงเหล้ายังเพิ่ม ชี้คนยังปรับตัวไม่ได้

 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย

 

วันที่ 10 พ.ค.63  พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ครบ 7 วันหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนสตรีและรมว.กลาโหม มีข้อกำหนดผ่อนคลายหลายมาตรการ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) โดยพล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) หารือร่วมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในการดำเนินการปรับแผนการปฏิบัติ 

 

 หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการ เพิ่มสายตรวจร่วม ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กทม. และงานสาธารณสุข ลงพื้นที่ที่มีการผ่อนคลาย รวมทั้งการทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยจากการรวบรวมสถิติเปรียบเทียบ 7 วันก่อนหน้านี้ที่มีการผ่อนคลาย และหลัง 7 วัน ไม่ว่าจะเป็นการนอกเคหะสถานในช่วงเคอร์ฟิว หรือการรวมกลุ่ม มั่วสุ่ม ลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ

 

 ทั้งสองส่วนปรากฎว่าหลังจากมีการผ่อนคลาย ภาพรวมกระทำผิดสูงขึ้นนิดหน่อยไม่มาก จากเดิม 7 วันก่อนหน้านี้ประมาณ 4,407 คดี แต่หลังวันที่ 3 พ.ค. จนถึงวันที่10 พ.ค.จำนวน5,363 คดี เพิ่มขึ้นประมาณ 900 กว่าคดี หรือร้อยละ 21 

 

นอกจากนี้ หากแยกในรายละเอียดความผิดออกนอกเคหะสถาน เพิ่มขึ้น 827 คดี ส่วนใหญ่ยังมีประชาชนบางส่วนไม่สามารถปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ยังคงออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุอันควร เช่น การไปเที่ยวบ้านเพื่อน ร้อนออกมาทำธุระ ซึ่งมันไม่ใช่
 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการเล่นการพนันจากเดิม 664 คดี เป็น 704 คดี เพิ่ม 40 คดี แต่ที่น่าสนใจคือ หลังวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ความผิดเรื่องการมั่วสุม โดยการดื่มสุราสูงขึ้น เช่น 300 เป็น 600 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเราไม่อยากจับกุมดำเนินคดี เราอยากตักเตือนแต่เหลือทนจริงๆ ประเภทเตือนแล้วครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไปยังเจออีก หรือมั่วสุ่ม ดื่มสุรา ส่งเสียงรบกวนประชาชนโทรศัพท์แจ้งเราพบบ่อยมาก 

 

นอกจากนี้ ที่ยังจับกุมได้อยู่ตลอด คือ การเล่นการพนัน จำนวนรายลดลงก็จริง จากเดิมเล่น 2-3 คน แต่ระยะหลังพบว่ามีผู้เล่นสูงขึ้น 10-20 คน และมีการมั่วสุ่มในเรื่องสุรา ประกอบกัน ซึ่ง ผบ.ทสส และผบ.ตร ย้ำเสมอว่าตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่เราตักเตือนมาพอสมควร ในความผิดประเภทซ้ำซ้อน จากนี้ต้องดำเนินการเข้มงวด

 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง และสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ประกอบการหลายแห่งที่มีการผ่อนคลาย พบว่าน่าสนใจในช่วง 3-4 วันนี้มีผู้ฝ่าฝืน จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่  จากการไปลงพื้นที่ตรวจ 6,000 กว่า ปฏิบัติตามมาตรการประมาณ 6,001 ไม่ปฏิบัติตามประมาณ1-2 เปอร์เซ็นต์

 

 แต่เมื่อคืนวันที่ 9พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขน่าชื่นใจตัวเลขเกือบจะศูนย์แล้ว พอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ปกครอง เขต ท้องถิ่น และสาธารณสุขไปตรวจตรวจตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดตัวเลขลดลงไปเยอะพอสมควร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ร้านอาหารหลายร้านเป็นตัวอย่างที่ดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าต้องนั่ง 2 คนก็มีฉากกั้น 

 

อย่างไรก็ตาม ทั่วประเทศให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งจากผู้ประกอบการและผู้ที่ไปจับจ่ายใช้สอยในซูเปอร์มาร์เก็ต อยากให้คงแบบนี้ต่อเนื่องต่อไป


เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ตลาดนัดจตุจักรเปิดให้บริการเป็นวันแรก ตำรวจต้องเข้าไปตรวจดูหรือไม่ และพบการกระทำความผิดหรือความไม่เข้าใจของผู้ประกอบการและคนมาเดินจับจ่ายใช้สอยหรือไม่

 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ผู้ว่าฯกกทม. และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)ประชุมร่วมมือวางมาตรการกันก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นภาพที่น่าชื่นใจ ทุกจุดมีเจ้าหน้าที่กทม. สำนักงานเขต ตำรวจ ทหาร สำนักอนามัย และฝ่ายสาธารณสุข เราตรวจก่อนตามระบบ ดูว่าใส่หน้ากากอนามัย และในระหว่างเดินตามร้านค้าต่างๆทุกร้านให้ความร่วมมืออย่างดี อาจจะต้องมีการตักเตือนกันบ้าง หรือเผลอเรอกันบ้าง เบื้องต้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจ